จุดเริ่มต้นของบริษัทประกันภัยในต่างประเทศ

จุดเริ่มต้นของบริษัทประกันภัยในต่างประเทศ

บริษัทที่รับประกันอัคคีภัยในรูปแบบสมัยใหม่ มีจุดกำเนิดจากการเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ในกรุงลอนดอนราวเดือนกันยายน ค.ศ. 1666 เพลิงไหม้ครั้งนั้นทำให้อาคารบ้านเรือนเกือบสามในสี่ของลอนดอนต้องพังพินาศลงจากเหตุไฟไหม้ข้างต้น ในปีถัดมา ดร.นิโคลาส บาร์บอน ได้จัดตั้งสำนักงานประกันอัคคีภัยขึ้นเป็นแห่งแรกเรียกง่ายๆ ว่า “The Fire Office” ในปี ค.ศ. 1680 ดร.บาร์บอนรับหุ้นส่วนเพิ่มขึ้นเพื่อมาร่วมเฉลี่ยความเสี่ยง ซึ่งแต่เดิมต้องรับภาระอยู่เพียงผู้เดียว สามปีต่อมาคู่แข่งขันเพิ่มขึ้นอีกแห่งหนึ่งชื่อ “The Friendly” ทั้งสองแห่งนี้ออกกรมธรรม์รับประกันอัคคีภัย และจัดพนักงานดับเพลิงไว้สำหรับดับเพลิงที่เกิดขึ้นกับทรัพย์สินที่เอาประกันภัยไว้

สำนักงานรับประกันอัคคีภัยในสมัยนั้น ยังไม่อาจเรียกว่าเป็น “บริษัท” ในความหมายของบริษัทรับประกันภัยในปัจจุบันซึ่งมีขนาดใหญ่และมีผู้ถือหุ้นจำนวนมากได้ เพราะในสมัยนั้นสำนักงานที่รับประกันภัยเป็นธุรกิจของรายบุคคลหรือหุ้นส่วนกลุ่มน้อย ซึ่งจำกัดการรับประกันภัยเฉพาะอาคารที่อยู่อาศัยเท่านั้น

อย่างไรก็ดีในปี ค.ศ. 1710 มีการจัดตั้งบริษัทรับประกันอัคคีภัยขึ้นเป็นครั้งแรก คือ The Sun Insurance Office Of London ซึ่งยังคงดำเนินกิจการอยู่ตราบจนทุกวันนี้ในชื่อของ Royal & Sun Alliance Insurance Plc.ในเวลาเดียวกัน การประกันภัยทางทะเลและการประกันชีวิตก็เข้าสู่ระยะของการเติบโตอย่างรวดเร็ว ก่อนปี ค.ศ. 1699 ธุรกิจประกันภัยทั้งสองประเภทนี้กระทำกันอยู่เฉพาะผู้รับประกันภัยในวงจำกัด เหมือนกับการประกันอัคคีภัย ผู้รับประกันภัยส่วนใหญ่มักใช้ร้านกาแฟในกรุงลอนดอนเป็นที่ติดต่อธุรกิจกัน ร้านกาแฟกลายเป็นสถานที่ที่คนนิยมไปพบปะกันเพื่อกระจายหรือรับข่าวสารประจำวัน

หนึ่งในจำนวนร้านกาแฟเหล่านี้มีร้านกาแฟของนายเอ็ดเวิร์ด ลอยด์ (Edward Lloyd) ตั้งอยู่บนนถนนลอมบาร์ด ใกล้แม่น้ำเทมส์ เป็นร้านกาแฟที่ได้รับความนิยมจากบรรดาพ่อค้าต่างๆ ซึ่งส่วนมากเป็นเจ้าของเรือ เจ้าของสินค้า ตลอดจนผู้มีผลประโยชน์เกี่ยวข้องกับการประกันภัยการขนส่งทางทะเล เช่น เจ้าของเงินกู้ นายธนาคาร และนายหน้าซื้อขายสินค้า เป็นต้น บุคคลต่างๆ เหล่านี้มักจะมาพบปะพูดคุยรับฟังข่าวสารต่างๆ จากนายเอ็ดเวิร์ด ลอยด์ ซึ่งคอยจัดหาข่าวเกี่ยวกับการเดินเรือ สถิติของเรือแต่ละลำ ความสามารถของเรือรวมทั้งประวัติของกัปตันและลูกเรือที่ได้ผ่านการผจญภัยจากการเดินเรือในเส้นทางต่างๆ มาเสนอพ่อค้าและผู้รับประกันภัย นอกจากนี้ยังคอยช่วยเหลือและส่งเสริมพ่อค้าหรือผู้รับประกันภัยให้ลงลายมือชื่อด้านล่างของสัญญาประกันภัย เพื่อให้สัญญาประกันภัยเหล่านั้นมีผู้รับประกันภัยจนครบจำนวนเงินเอาประกันภัย

ในระหว่างปี ค.ศ. 1720 ได้มีการก่อตั้งบริษัทประกันภัยทางทะเล ซึ่งต่อมามีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก คือ บริษัท ลอนดอน แอนด์ รอยัลเอ็กซ์เชนจ์ (London & Royal Exchange) และนับเป็นจุดเริ่มต้นของยุคแห่งการประกอบธุรกิจการประกันภัยขนาดใหญ่ในปัจจุบัน

หลังจากนั้นในปี ค.ศ. 1771 Edward Lloyd ได้เริ่มก่อตั้งคณะกรรมการของนายลอยด์ขึ้นเพื่อบริหารธุรกิจประกันภัย จากนั้นได้ใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า “Lloyd’s Insurance” ดำเนินธุรกิจประกันภัยตามกฎหมายซึ่งต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภาอังกฤษ ในปี ค.ศ. 1871 มีสมาชิกรับประกันภัยในนามของ Lloyd’s Insurance ประมาณ 18,500 คน การรับประกันภัยดำเนินงานโดยกลุ่มผู้รับประกันภัย (Syndicate) หรือเรียกว่า Underwriter ซึ่งมีสิทธิลงลายมือชื่อรับประกันภัยในนามของกลุ่มผู้รับประกันภัย โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผู้รับประกันภัยทางทะเล (Marine) และกลุ่มรับประกันภัยอื่นนอกจากภัยทางทะเล (Non Marine) Lloyd’s Insurance นับเป็นบริษัทประกันภัยที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในโลกจนถึงปัจจุบันนี้

การปฏิวัติอุตสาหกรรมในช่วงต้นศตวรรษที่ 18 ทำให้เกิดความต้องการในด้านการรับประกันอุบัติเหตุและทำให้มีการก่อตั้งบริษัทรับประกันใหม่ๆ เพิ่มขึ้น เครื่องจักรใหม่ๆ ที่นำมาติดตั้งกับโรงงาน และหัวรถจักรสมัยใหม่ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินและชีวิตของบุคคลเพิ่มขึ้นอย่างมาก การประกันภัยนอกจากจะช่วยให้การคุ้มครองอุบัติเหตุเหล่านี้ในด้านการเงินแล้ว ยังมีบทบาทอย่างสำคัญในการส่งเสริมให้มีการประดิษฐ์อุปกรณ์ด้านความปลอดภัยและมีส่วนช่วยในการกำหนดกฎระเบียบในการรักษาความปลอดภัยด้วย