คปภ. สั่งปรับอาคเนย์ประกันภัย ปมประวิงจ่ายค่าสินไหม "น้องหญิง" กรณีเสียชีวิตเหตุรถเบนซ์เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ ที่บุรีรัมย์
สำนักงาน คปภ. ก้าวสู่ผู้นำการให้บริการดิจิทัลภาครัฐ คว้ารางวัลในงานรัฐบาลดิจิทัล ประจำปี 2564 “DG Awards 2021” ประเภท “รางวัลพัฒนาการดีเด่นหน่วยงานระดับกรมที่จัดทำนโยบาย กำกับ ดูแล ประสานงาน หรืออื่น ๆ เป็นหลัก” ด้วยคะแนนรวมสูง 81.58%
ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า วันนี้ (วันที่ 3 ธันวาคม 2564) นายกรัฐมนตรี (พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา) ได้มอบรางวัลรัฐบาลดิจิทัลระดับกรม “รางวัลพัฒนาการดีเด่นหน่วยงานระดับกรมที่จัดทำนโยบาย กำกับ ดูแล ประสานงาน หรืออื่น ๆ เป็นหลัก” ให้แก่สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ภายในงานมอบรางวัลรัฐบาลดิจิทัล ประจำปี 2564 "Digital Government Awards 2021" ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ ชั้น 3 สโมสรทหารบก วิภาวดี ซึ่งเป็นรางวัลที่สำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) หรือ (สพร.) พิจารณามอบให้กับส่วนราชการและหน่วยงานภาครัฐ โดยใช้ผลคะแนนจากโครงการสำรวจระดับ ความพร้อมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของหน่วยงานภาครัฐ เพื่อเป็นต้นแบบที่ดีให้กับส่วนราชการและหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ ต่อไป โดยการมอบรางวัลในครั้งนี้ จัดโดย สพร. เป็นการมอบรางวัลให้แก่หน่วยงานภาครัฐที่มีการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่การเป็นรัฐบาลดิจิทัลในระดับสูง และมีผลงานดีเด่นด้านการให้บริการประชาชนผ่านระบบดิจิทัล
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า รางวัลรัฐบาลดิจิทัล ประจำปี 2564 สพร. ได้ดำเนินการสำรวจระดับความพร้อมรัฐบาลดิจิทัลหน่วยงานภาครัฐของประเทศไทย จำนวนทั้งสิ้น 1,922 หน่วยงาน ประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ครอบคลุม 76 จังหวัด โดยได้มีการประกาศผลและมอบรางวัล แก่หน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งสิ้น 33 รางวัล ได้แก่ รางวัลพัฒนาการดีเด่น จำนวน 5 รางวัล โดย “สำนักงาน คปภ.” ได้รับรางวัลพัฒนาการดีเด่น อันดับ 1 หน่วยงานระดับกรมที่จัดทำนโยบาย กำกับ ดูแล ประสานงาน หรืออื่น ๆ เป็นหลัก คะแนนรวมจัดอยู่ในกลุ่ม Very High โดยมีคะแนนระดับความพร้อมรวมสูงสุด 81.58% และมีคะแนนระดับความพร้อมในการพัฒนาด้านดิจิทัลอยู่ในกลุ่ม Very High ด้วยเช่นกัน ซึ่งวัดจากระดับความพร้อมการพัฒนาด้านดิจิทัลรายตัวชี้วัด (Pillar) 6 ตัวชี้วัด สำหรับตัวชี้วัดที่โดดเด่นที่สุดของสำนักงาน คปภ. คือ Pillar 5 : วัดผลด้านโครงสร้างพื้นฐานความมั่นคงปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ (Secure and Efficient Infrastructure) โดยได้คะแนนสูงถึง 98.33% ลำดับถัดมาคือ Pillar 4 : วัดผลด้านการบริหารจัดการรูปแบบดิจิทัล (Smart Back Office) จึงเป็นการการันตีถึงความสำเร็จและความมุ่งมั่นของสำนักงาน คปภ. ในการยกระดับการให้บริการด้านการกำกับดูแล เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ผ่านระบบดิจิทัล พร้อมผลักดันให้ภาคธุรกิจเข้าสู่การใช้เทคโนโลยีหรือทำธุรกรรมผ่านทางดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งจะเป็นการช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. ได้มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลที่สมัย เช่น CMIDLT, CMIRVP และ 3REGCom ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการหน่วยงานอื่นมาเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างกัน โครงการ OIC Gateway การให้บริการขอรับความเห็นชอบแบบและข้อความ อัตราเบี้่ยประกันภัยให้กับภาคธุรกิจ (I-SERFF) และโครงการพัฒนาระบบคนกลางประกันภัย (คนกลาง ForSure) เป็นต้น รวมทั้ง มีความร่วมมือระหว่างหน่วยงานเพื่อให้บริหาร ผ่านการลงนามความร่วมมือ (MOU) อาทิ การเชื่อมโยงข้อมูลการจัดทำประกันภัย พ.ร.บ. ผ่านระบบสินไหมอัตโนมัติ (E-Claim System) กับโรงพยาบาลและสถานพยาบาล การพัฒนาระบบรายงานข้อมูลประกันภัยรถภาคบังคับ (Compulsory Motor Insurance System : CMIS) เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลผ่านระบบตรวจสอบการจัดทำประกันภัยรถภาคบังคับ พ.ร.บ. กับกรมการขนส่งทางบก บริการตรวจสอบข้อมูลประวัติการทำประกันภัย พ.ร.บ. กับบริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด นอกจากนี้ ได้มีการนำ Big Data เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจ หน่วยงานภาครัฐ และประชาชนทั่วไป ซึ่งจะเป็นการช่วยขับเคลื่อนการปฏิบัติงานไปสู่รัฐบาลดิจิทัลได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ความจำเป็นของเทคโนโลยีดิจิทัลมีเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สำนักงาน คปภ. ที่มีหน้าที่ในการให้บริการประชาชนต้องเปลี่ยนรูปแบบและวิธีการให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลมากยิ่งขึ้น ซึ่งการให้บริการผ่านช่องทางดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบได้นั้น จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนข้อมูลกระดาษ ให้เป็นรูปแบบดิจิทัล เพื่อให้สามารถให้บริการประชาชนผ่านช่องทางดิจิทัลได้อย่างเบ็ดเสร็จและไร้รอยต่อ ซึ่งในอนาคตจะผลักดันยกระดับการให้บริการเป็นแบบดิจิทัล 100% นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาศักยภาพบุคลากรในองค์กรด้านทักษะดิจิทัลทั้งในด้านการประกันภัยและด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงการยกระดับการนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและบริการประชาชน เพื่อให้สามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ประโยชน์อย่างสร้างสรรค์และขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการประกันภัยในเชิงรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“รางวัลที่สำนักงาน คปภ. ได้รับในครั้งนี้ แสดงถึงความสำเร็จในระดับหน่วยงานที่พัฒนาคุณภาพการให้บริการ มีระบบการบริหารงานและการบริหารจัดการภายในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ขอขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้องทุกท่านที่เป็นกำลังสำคัญทำให้สำนักงาน คปภ. สามารถคว้ารางวัลอันทรงเกียรตินี้ได้ โดยสำนักงาน คปภ. จะมุ่งมั่นทำงานและปรับปรุงประสิทธิภาพการงานอย่างต่อเนื่อง และพร้อมรับข้อเสนอแนะเพื่อนำมาพัฒนามาตรฐานการให้บริการให้ดียิ่งขึ้น ทั้งการเตรียมความพร้อมรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ การเตรียมแผนฟื้นฟูภัยพิบัติ (Disaster Recovery Plan : DR plan) และการจัดทำแผนจัดการเหตุการณ์ผิดปกติ (Incident Management Process) เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมประกันภัยและสังคมต่อไป” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย
Attachment | Size |
---|---|
![]() | 180.97 KB |
บอร์ด คปภ. เห็นชอบให้นายทะเบียนสั่ง “เดอะ วัน ประกันภัย” หยุดรับ ประกันวินาศภัยชั่วคราว
• สั่งให้เร่งแก้ไขฐานะการเงินภายในกำหนด คุมเข้มห้ามรับลูกค้ารายใหม่ ต้องจ่ายเคลมลูกค้ารายเดิมตามปกติ
• เลขาธิการ คปภ. สั่งมาตรการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประชาชนอย่างเต็มที่
ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (บอร์ด คปภ.) ครั้งที่ 14/2564 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ได้มีมติเห็นชอบให้บริษัท เดอะ วัน ประกันภัย จำกัด (มหาชน) หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ได้ปรากฏพฤติการณ์และหลักฐานต่อนายทะเบียนว่า บริษัท เดอะ วัน ประกันภัย จำกัด (มหาชน) มีฐานะการเงินไม่มั่นคง โดยมีหนี้สินเกินกว่าทรัพย์สิน จัดสรรสินทรัพย์หนุนหลัง ไม่เพียงพอตามที่กฎหมายกำหนด มีสินทรัพย์สภาพคล่องไม่เพียงพอสำหรับการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน และปรากฏว่าอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนต่ำกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งปรากฏหลักฐานว่าบริษัทไม่มีเจตนาที่จะแก้ไขฐานะการเงินของบริษัท ทำให้ไม่สามารถมั่นใจได้ว่าบริษัทมีความสามารถในการชำระหนี้ตามภาระผูกพันที่มีต่อผู้เอาประกันภัยหรือประชาชนได้ มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนล่าช้า อันเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาที่ถือว่าเป็นการประวิงการจ่ายค่าสินไหมทดแทนหรือประวิงการคืนเบี้ยประกันภัยของบริษัทประกันวินาศภัย และยังคงมีจำนวนค่าสินไหมทดแทนคงค้าง
จำนวนมากจนส่งผลกระทบต่อฐานะและการดำเนินการของบริษัท นอกจากนี้ยังมีการกระทำการอันเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายโดยประกาศปิดทำการ โดยไม่ได้แจ้งเหตุผล ส่งผลให้เกิดความตื่นตระหนกต่อผู้เอาประกันภัยและประชาชนจำนวนมาก เนื่องจากเข้าไปติดต่อ ณ ที่ทำการบริษัท แต่ไม่ได้รับการบริการใด ๆ จากบริษัทจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏหลักฐานดังกล่าว นายทะเบียนจึงเห็นว่า บริษัท เดอะ วัน ประกันภัย จำกัด (มหาชน) มีฐานะหรือการดำเนินการอยู่ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชนเพื่อให้การกำกับดูแลและติดตามการแก้ไขปัญหาฐานะและการดำเนินการของบริษัทให้เป็นไปอย่างรอบด้าน ครอบคลุมทั้งการติดตามความมั่นคงทางการเงินและธุรกรรมการดำเนินงานที่ถูกต้องโปร่งใส อันจะทำให้บริษัทดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน รวมถึงป้องกันมิให้เกิดความเสียหายต่อผู้เอาประกันภัยและประชาชนในอนาคต อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 52 วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 และแก้ไขเพิ่มเติม ประกอบกับมติคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ในการประชุมครั้งที่ 14/2564 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2564 นายทะเบียนด้วยความเห็นชอบของ บอร์ด คปภ. จึงมีคำสั่งให้บริษัท เดอะ วัน ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ดำเนินการ ดังต่อไปนี้
1. หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว
2. แก้ไขฐานะการเงินให้เพียงพอต่อภาระผูกพัน และให้มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนเพียงพอตามที่กฎหมายกำหนดภายใน 15 วัน นับแต่วันได้รับคำสั่ง
3. ให้บริษัทเปิดทำการติดต่อกับประชาชนทุกวันตามประกาศ คปภ. ว่าด้วยการกำหนดให้บริษัทประกันวินาศภัยเปิดทำการติดต่อกับประชาชนฯ
4. จัดทำรายงานสรุปรายละเอียดของกรมธรรม์ประกันภัยที่บริษัทจะต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัย เช่น หมายเลขกรมธรรม์ประกันภัย ชื่อผู้เอาประกันภัย จำนวนเงินที่ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน และจัดส่งรายงานให้สำนักงาน คปภ. ทุกวันทำการนับแต่วันที่รับทราบคำสั่ง และให้บันทึกรายการในสมุดทะเบียน สมุดบัญชี คำนวณและดำรงเงินสำรองประกันภัย ให้ถูกต้อง ครบถ้วนตามกฎหมาย
5. เร่งรัดการจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัยให้ครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
6. ให้รายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตาม ตามข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 และข้อ 5 ทุกวันทำการ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ ตามมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 เมื่อนายทะเบียนมีคำสั่งให้บริษัทหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว ห้ามมิให้กรรมการ พนักงาน และลูกจ้างของบริษัทสั่งจ่ายเงินของบริษัท หรือทำการเคลื่อนย้ายหรือจำหน่ายทรัพย์สินของบริษัท เว้นแต่เป็นการจ่ายเงินเดือนหรือค่าจ้างแก่พนักงานหรือลูกจ้างของบริษัทตามปกติ สำหรับการจ่ายเงินอื่นให้เป็นไปตามที่นายทะเบียนกำหนด รวมถึงบริษัทต้องรายงานเป็นหนังสือให้นายทะเบียนทราบถึงบรรดาเจ้าหนี้และลูกหนี้ทั้งหมดของบริษัทภายในระยะเวลานายทะเบียนกำหนด
นอกจากนี้ ในกรณีที่บริษัทไม่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาฐานะการเงินและการดำเนินงานตามคำสั่งนายทะเบียนได้อย่างครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กำหนดข้างต้น หรือปรากฏข้อเท็จจริงว่าบริษัทมีการดำเนินการที่อาจเข้าข่ายการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายเพิ่มเติม หรือนายทะเบียนพิจารณาแล้วเห็นว่าหากรอให้ครบกำหนดระยะเวลาที่กำหนดข้างต้นอาจก่อให้เกิดความเสียหาย ต่อผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน ให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยดำเนินการตามมติคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ครั้งที่ 14/2564 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ต่อไป
“การออกคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าวจะช่วยให้สำนักงาน คปภ. สามารถคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประชาชนได้เต็มที่ และตามประกาศนายทะเบียน เรื่อง กำหนดการจ่ายเงินของบริษัท ที่นายทะเบียนมีคำสั่งให้หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว ทำให้สำนักงาน คปภ. สามารถเข้าไปควบคุมการจ่ายเงินต่าง ๆ ของบริษัทได้ทั้งหมด และจัดการเคลียร์ปัญหาการจ่าย ค่าสินไหมทดแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยได้สั่งการไปยังสายตรวจสอบ สายวิเคราะห์ธุรกิจประกันภัย และสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ ตลอดจนสำนักงาน คปภ. ทั่วประเทศ ตรวจสอบสาขา/สำนักงานตัวแทนของบริษัท ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบและให้ดำเนินการแจ้งการสั่งหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัท/ตัวแทน/นายหน้าประกันภัย ขายกรมธรรม์รายใหม่ในระหว่างการหยุดรับประกันภัย พร้อมทั้ง ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะเจ้าหน้าที่เข้าไปประจำที่บริษัทอย่างเต็มพิกัด เพื่อควบคุมให้บริษัทดำเนินการให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน หากพบว่าบริษัทไม่ได้ดำเนินการตามเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน ก็จะดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมายในระดับที่เข้มข้นยิ่งขึ้นต่อไป สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการและผู้บริหารของบริษัท สำนักงาน คปภ. จะตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป หากพบว่ามีการกระทำความผิดจะดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อสงสัยหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ติดต่อได้ที่สายด่วน คปภ. 1186 หรือ www.oic.or.th” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย
คปภ. ชี้แจง กรณีบริษัท เดอะ วัน ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ประกาศปิดปรับปรุงชั่วคราว
คปภ. เปิดเวทีประชุม CEO Insurance Forum 2021 ระดมความคิดเห็นภาคธุรกิจประกันภัยมุ่งขับเคลื่อนนโยบาย เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน
คปภ. ส่งรักทั่วไทย ให้คนไทยอุ่นใจเมื่อมีประกันภัย พ.ร.บ.
• คปภ. ผนึกกำลังทั่วทุกภาค สร้างความอุ่นใจให้คนไทยมอบ พ.ร.บ. 1 หมื่นฉบับ ดึงดารา นักแสดงแพนเค้ก เขมนิจ และ ท็อป จรณ กระตุ้นประชาชน ใส่ใจทำ พ.ร.บ. เพื่อเป็นหลักประกันความคุ้มครอง พร้อมเตรียมจัดกิจกรรม “ส่งรักทั่วไทย อุ่นใจเมื่อมีประกันภัย พ.ร.บ.” ใน 3 จังหวัดกาญจนบุรี อุดรธานี และลำปาง
วันนี้ (23 พฤศจิกายน 2564) ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานในพิธีแถลงข่าว และประกาศเจตนารมณ์ขับเคลื่อน โครงการ “พ.ร.บ.รุกทั่วไทย” ในรูปแบบ Virtual Event โดยมีผู้แทนสำนักงาน คปภ. ภาค ทั้ง 9 ภาค ทั่วประเทศ ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนักเรียนนักศึกษา ประชาชน ร่วมงานผ่านระบบ Zoom และ และรับชมงานได้ที่ Facebook และ Youtube กองทุนทดแทนผู้ประสบภัย
เลขาธิการ คปภ. เปิดเผยว่า การประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 หรือประกันภัย พ.ร.บ. ถือเป็นประกันภัยภาคบังคับที่กฎหมายกำหนดให้เจ้าของรถ หรือผู้ครอบครองรถสำหรับรถทุกคันทุกประเภท ต้องจัดทำเพื่อเป็นหลักประกันให้กับผู้ประสบภัยจากรถทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงคนเดินเท้า หากได้รับความเสียหายแก่ชีวิต บาดเจ็บ ทุพพลภาพ สูญเสียอวัยวะ จะได้รับการเยียวยาค่ารักษาพยาบาลตามจริง ไม่เกินวงเงินความคุ้มครองของกรมธรรม์ (กรณีบาดเจ็บคุ้มครองสูงสุด 80,000 บาท กรณีเสียชีวิตคุ้มครองสูงสุด 500,000 บาท) แต่ในปัจจุบันยังมีผู้ประสบภัยจากรถเป็นจำนวนมากที่ได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถเข้าถึงสิทธิจากการประกันภัยดังกล่าวได้ นอกจากนี้ จากข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนปี 2563 พบว่า มีอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ปี 2563 รวม 17,831 คน คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตร้อยละ 27.20 ต่อประชากร 1 แสนคน และจากสถิติการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้แก่ผู้ประสบภัยจากรถ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2564 พบว่ามีการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้แก่ผู้ประสบภัยจากรถเป็นจำนวนกว่า 151 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามีจำนวนรถที่ไม่จัดทำประกันภัย พ.ร.บ. เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ กองทุนทดแทนผู้ประสบภัย ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงาน คปภ. มีบทบาทหน้าที่ที่สำคัญในการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้น (กรณีบาดเจ็บ 30,000 บาท กรณีเสียชีวิต 35,000 บาท) เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากรถให้ได้รับการเยียวยาอย่างทันท่วงที ในกรณีรถที่ก่อให้เกิดความเสียหายไม่มีประกันภัยรถภาคบังคับ (ประกันภัยพ.ร.บ.) หรือผู้ประสบภัยไม่อาจเข้าถึงสิทธิจากการประกันภัยได้ จึงได้จัดทำ โครงการ “พ.ร.บ.รุกทั่วไทย” ขึ้น เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถได้เห็นความสำคัญของประกันภัยรถภาคบังคับ (ประกันภัยพ.ร.บ.) และบทลงโทษจากการไม่ทำประกันภัยรถภาคบังคับ โดยเน้นการรณรงค์ในเชิงรุกเพื่อให้เข้าถึงประชาชนทั่วทุกภาค ผ่านโครงการ “พ.ร.บ.รุกทั่วไทย” ที่มีการดำเนินการในรูปแบบทั้ง Online และ Offline ซึ่งจะมีกิจกรรมที่มอบทั้งสาระความรู้ และความบันเทิงอย่างครบถ้วน
สำหรับการดำเนินงานในโครงการ “พ.ร.บ.รุกทั่วไทย” ประกอบด้วย 2 กิจกรรม ได้แก่
1. กิจกรรม “ส่งรักทั่วไทย อุ่นใจเมื่อมีประกันภัย พ.ร.บ.” เป็นกิจกรรมให้ความรู้แก่ประชาชนในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยในวันนี้นอกจากการแถลงข่าวจากกรุงเทพมหานครผ่านสื่อออนไลน์ไปยังผู้ชมทั่วประเทศแล้ว ยังมีกิจกรรมพบปะพี่น้องภาคใต้ จังหวัดสงขลาพร้อมกัน และอีก 3 ครั้ง เราจะไปพบพี่น้องภาคตะวันตกที่จังหวัดกาญจนบุรี ในวันที่ 16 ธันวาคม 2564 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดอุดรธานี ในวันที่ 21 ธันวาคม 2564 และภาคเหนือที่จังหวัดลำปาง ในเดือนมกราคม 2565 ส่วนภาคอื่น ๆ สำนักงาน คปภ. จังหวัดทั่วประเทศ พร้อมให้ความรู้ด้านประกันภัย พ.ร.บ. กับประชาชนอย่างเต็มที่
2. กิจกรรมสร้างการเข้าถึงกรมธรรม์ประกันภัย พ.ร.บ. จำนวน 10,000 ฉบับ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ สำนักงาน คปภ. มีความตั้งใจที่จะให้ระบบประกันภัยได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยง และเยียวยาความสูญเสียต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถ ใช้ถนน และเนื่องในโอกาสที่ใกล้จะถึงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2565 สำนักงาน คปภ. จึงปรารถนาที่จะส่งมอบ พ.ร.บ. ทั้ง 10,000 ฉบับนี้ เป็นของขวัญปีใหม่ แทนความห่วงใยจากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย สำนักงาน คปภ. ให้กับพี่น้องประชาชนผู้เป็นเจ้าของรถ โดยท่านสามารถเข้าไปลงทะเบียน เพื่อรับประกันภัย พ.ร.บ. ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตามเงื่อนไขที่กำหนดที่ www.พรบรุกทั่วไทย.com ในการแถลงข่าวครั้งนี้ยังมีพิธีกรมากความสามารถมากมาย อาทิ ดาว อภิสรา ดารานักแสดง แพนเค้ก เขมนิจ และ ท็อป จรณ ร่วมแสดงเจตนารมณ์ขับเคลื่อนโครงการ “พ.ร.บ. รุกทั่วไทย” รวมทั้งมินิคอนเสิร์ตจาก จ๊ะ นงผณี และกิจกรรมการเล่นเกมแจกของรางวัลกับพิธีกรคู่ นุ้ย ธนวัฒน์ (ดีเจนุ้ย) และ ดาด้า วรินดา (ดีเจดาด้า) เพื่อให้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถทุกคน โดยเฉพาะเจ้าของรถจักรยานยนต์ ได้ตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม รวมทั้งเห็นความสำคัญของการมีประกันภัยรถภาคบังคับ (ประกันภัย พ.ร.บ.)
“ประกันภัย พ.ร.บ. ถือเป็นสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานสำหรับการใช้รถ ใช้ถนน เพราะประกันภัย พ.ร.บ. เป็น สิ่งแรกที่เข้ามาช่วยเยียวยาเมื่อประสบอุบัติเหตุจากรถ ดังนั้น ผู้เป็นเจ้าของรถและผู้ครอบครองรถทุกคนจึงควร ที่จะทำและอย่าปล่อยให้ประกันภัย พ.ร.บ.ขาด เพราะเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายซึ่งมีโทษปรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถจักรยานยนต์ที่นอกจากจะมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุมากที่สุดแล้ว ยังพบว่าส่วนใหญ่ยังเป็นรถที่ไม่มีการจัดทำประกันภัย พ.ร.บ. มากที่สุดอีกด้วย ซึ่งสำนักงาน คปภ. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการ พ.ร.บ.รุกทั่วไทย ที่จัดขึ้นนี้ จะสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ และสามารถทำให้ประชาชนเข้าถึงระบบประกันภัย และนำระบบประกันภัยมาเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงจากการใช้รถใช้ถนน และยังเป็นการปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนทุกคนช่วยกันรับผิดชอบต่อส่วนรวมหรือต่อผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกันอีกด้วย ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัย พ.ร.บ. สามารถสอบถามได้ที่สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ.กล่าว ในตอนท้าย
คปภ. สั่งบริษัทจ่ายเคลมกรณี "น้องหญิง" นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถรถเบนซ์เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ ที่บุรีรัมย์ พร้อมดำเนินคดีในข้อหาประวิงการจ่ายค่าสินไหมทดแทน เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชน