ธรรมาภิบาลของ คปภ.

แนวคิดและที่มา

 

นับตั้งแต่รัฐบาลได้ประกาศให้ปี 2545 เป็นปีแห่งการเริ่มต้นรณรงค์การมีบรรษัทภิบาลที่ดี ทำให้ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนมีการตื่นตัวในการพัฒนาและปรับปรุงการบริหารจัดการให้สอดคล้องตามหลักบรรษัทภิบาลที่ดี และเพื่อให้การดำเนินการส่งเสริมบรรษัทภิบาลมีพัฒนาการอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น รัฐบาลจึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการบรรษัทภิบาลแห่งชาติ ซึ่งมี ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน โดยได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้น 6 คณะ และ 1 ในคณะอนุกรรมการชุดดังกล่าว คือ คณะอนุกรรมการยกระดับธรรมาภิบาล Corporate Governance (CG) ด้านธนาคารพาณิชย์ บริษัทเงินทุน และบริษัทประกันภัย เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมโครงการประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศและธนาคารโลก (Report on the Observance of Standardand Codes : ROSCS) ซึ่งในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)ได้ดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการส่งเสริมยกระดับธรรมาภิบาลในธุรกิจประกันภัยขึ้นมาดูแลงานด้านนี้ โดยมีตัวแทนจากภาครัฐและภาคเอกชนร่วมเป็นกรรมการ

 

 

ภายใต้แนวทางของ IMF และเวิลด์แบงก์ที่ต้องการให้ประเทศสมาชิกทั้งหมดมีระบบการกำกับดูแลที่โปร่งใสและได้มาตรฐาน ทำให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ธนาคารแห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ จึงต้องเข้ารับการประเมินแนวทางกำกับดูแลธุรกิจประกันภัย ธุรกิจธนาคาร และบริษัทเงินทุนตามโครงการประเมินความมั่นคงทางการเงิน (FinancialSector Assessment Program : FSAP) ซึ่ง IMF และเวิลด์แบงก์ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ทำการประเมินผลงานแล้วในปี2550

สำนักงาน คปภ. ได้จัดทำแนวทางธรรมาภิบาลขึ้นตามหลักการและแนวทางปฏิบัติที่ดีตามมาตรฐานสากล และมีความเข้มงวดไม่น้อยไปกว่ามาตรฐานธรรมาภิบาล ที่ได้กำหนดให้ผู้อยู่ใต้การกำกับดูแลถือปฏิบัติ ซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ คปภ. จากการประชุม ครั้งที่ 6/2556 เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2556 และเพื่อให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป สำนักงาน คปภ. ได้ดำเนินการทบทวนและปรับปรุงแนวทางธรรมาภิบาล และแนวปฏิบัติตามธรรมาภิบาลสำหรับคณะกรรมการ คปภ. โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการคปภ. เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2559

 

หลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติตามธรรมาภิบาลสำหรับคณะกรรมการ คปภ.

ภายใต้แนวทางธรรมาภิบาลของสำนักงาน คปภ. ที่ประชุมคณะกรรมการ คปภ. เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2559
และวันที่ 23 กันยายน 2559 ได้ให้ความเห็นชอบหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติตามธรรมาภิบาลสำหรับคณะกรรมการ
คปภ. ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 พ.ศ. 2559 จำนวน 4 เรื่อง สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้

 

 

มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแนวปฏิบัติในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย ให้เกิดความเที่ยงธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ผดุงเกียรติ และศักดิ์ศรีอันควรแก่ความไว้วางใจ และเชื่อมั่นของประชาชน ตลอดจนดำรงตน ตั้งมั่นเป็นแบบอย่างที่ดีงาม อันเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการเสริมสร้างระบบการกำกับดูแลกิจการที่ดี การกำหนดจรรยาบรรณในการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการฯ ได้อ้างอิงจากค่านิยมหลักของมาตรฐานจริยธรรมสำหรับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง และเจ้าหน้าที่ของรัฐ 9 ประการ ที่กำหนดโดยสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน และมีการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับส่วนได้เสียของกรรมการที่พึงหลีกเลี่ยงการกระทำที่จะทำให้เกิดความขัดแย้งทางผลประโยชน์จากการปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม และมีกระบวนการและแนวทางปฏิบัติในกรณีมีส่วนได้เสียเพื่อป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ สนับสนุนให้เกิดความโปร่งใสและความอิสระในการตัดสินใจ

 

มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติในการประชุมสำหรับคณะกรรมการตามภารกิจในการกำกับและติดตามการดำเนินงานของสำนักงาน ครอบคลุมถึงการกำหนดตารางการประชุมล่วงหน้า ประชุมสม่ำเสมออย่างน้อยเดือนละหนึ่งครั้ง มีการจัดเตรียมระเบียบวาระการประชุมอย่างเหมาะสมทั้งในด้านปริมาณและคุณภาพ จัดส่งวาระการประชุมล่วงหน้า เพื่อให้กรรมการมีเวลาเพียงพอที่จะพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ รวมทั้งจัดทำรายงานการประชุมที่มีเนื้อหาสาระครบถ้วนและจัดเก็บด้วยความรัดกุม

 

มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเครื่องมือหนึ่งในการเสริมสร้างระบบการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ สนับสนุนให้เกิดความโปร่งใส และความเป็นอิสระในการตัดสินใจ รวมทั้งเป็นแบบอย่างที่ดีในการผลักดัน เสริมสร้างและปลูกฝังให้ทุกคนในองค์กรปฏิบัติหน้าที่ด้วยความถูกต้องโดยยึดหลักธรรมาภิบาล เพื่อสร้างรากฐานและรักษาภาพลักษณ์ของสำนักงานให้เป็นองค์กรที่มีการเจริญเติบโตอย่างยั่งยืน และส่วนได้เสียที่ต้องรายงานเป็นไปตามหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการมีส่วนได้เสียของกรรมการในจรรยาบรรณในการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายของกรรมการในคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย

 

มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเครื่องมือที่ช่วยวัดประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการปฏิบัติงานซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของระบบการกำกับดูแลกิจการที่ดี นอกจากนี้ ยังเป็นข้อมูลสำหรับการปรับปรุงพัฒนาสำนักงาน คปภ. สำหรับหลักเกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินประกอบด้วย นโยบายคณะกรรมการ การปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ โครงสร้างของคณะกรรมการ แนวปฏิบัติของคณะกรรมการ การจัดเตรียมและดำเนินการประชุมคณะกรรมการ และคุณลักษณะของกรรมการ