ผู้ถือกรมทัณฑ์เสียชีวิต บริษัทฟอร์คอนแจ้งว่า ทางบริษัทยกเลิกการทำประกันแล้ว แต่บริษัทบัตรเครดิตแจ้งมียอดตัด

กลุ่มคำถาม: 
ประกันวินาศภัย
ชื่อผู้ถาม: 
ฝ้าย
วันเวลาที่ตอบ: 
23 September 2552
รายละเอียดคำถาม: 
เนื่องจากดิฉันเคยทำงานด้านการขายประกันอุบัติเหตุทางโทรศัพท์มาก่อน จึงมีความรู้ด้านการทำประกัน การยกเลิกประกัน บ้าง ทำให้วันหนึ่ง เพื่อนดิฉันมาปรึกษาเรื่องการทำประกันอุบัติเหตุ เพื่อนดิฉันชื่อ อู๋ (นามสมมติ) ได้เข้าร่วมโครงการประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลกับบริษัทฟอร์คอน ค่าเบี้ยเดือนละ 525 บาท ในเดือน ก.พ.52 ต่อมาในเดือน มี.ค. 52 ได้ให้ลูำกน้อง 3 คน เข้าร่วมโครงการด้วย โดยค่าเบี้ยประกันของลูกน้องทั้ง 3 คน ชื่อ หนึ่ง สอง และสาม (นามสมมติ)อยู่ที่คนละ 323 บาท ต่อเดือน โดยค่าเบี้ยประกันทั้งหมด หักผ่านบัตรของคุณอู๋ ซึ่งเป็นเจ้าของบัตรและเป็นนายจ้าง คุณอู๋ แจ้งว่าบริษัทฟอร์คอนมีการหักค่าเบี้ยประกันทุกเดือน จนกระทั่งเข้าเดือนที่ 7 คุณอู๋ไม่ได้ไปชำระค่าบัตรเครดิต ทางฟอร์คอนจึงมีการส่ง SMS มาแจ้งว่า ไม่สามารถหักค่าเบี้ยประกันของทั้ง 4 ท่านได้ คุณอู๋ จงใจไม่ไปจ่าย เพราะต้องการยกเลิกกรมทัณฑ์ จึงทำเรื่องส่งเอกสารสำเนาบัตรประชาชนของตนเองและลูกน้องอีก 1 คนคือ นายหนึ่ง ส่วนลูกน้องอีก 2 คนไม่มีการส่งเอกสารสำเนาบัตรประชาชนเพื่อยกเลิก แต่ในเอกสารสำเนาบัตรประชาชนของคุณอู๋ มีหมายเหตุไว้ว่า \"กรมทัณฑ์ของนาย สอง และนายสาม ขอให้ยกเลิกด้วย ส่วนเอกสารจะส่งให้ภายหลัง ให้ดำเนินการโดยด่วน\" โดยคุณอู๋ ส่งเอกสารให้บริษัทฟอร์คอนไปเมื่อประมาณปลายเดือนกรกฎาคม และทำการชำระค่าบัตรเครดิตเรียบร้อย จนกระทั่งวันที่ 14 สิงหาคม คุณอู๋ได้รับ SMS จากบริษัทฟอร์คอนว่า ขอบคุณที่มีการชำระค่าเบี้ยประกัน (ทำนองนี้ ดิฉันจำไม่ค่อยได้) คุณอู๋จึงโทรไปเช็คกับบัตรเครดิต ปรากฏว่ามียอดการหักค่าเบี้ยประกันของ นายสองและนายสาม อยู่ แต่ของคุณอู๋และนายหนึ่ง ที่มีการส่งเอกสารไปยกเลิก ไม่มีการหักแต่อย่างใด และในวันที่ 28 สิงหาคม 2552 นายสอง ประสบอุบัติเหตุขณะขี่รถมอเตอร์ไซด์ ทำให้เสียชีวิต ซึ่งในกรมทัณฑ์ระบุไว้ว่า มีทุนประกันภัยในส่วนนี้อยู่ที่ 5 แสนบาท คุณอู๋จึงดำเนินการแทนผู้รับผลประโยชน์ของนายสอง ซึ่งก็คือคุณแม่ของนายสอง พนักงานชื่อศิริพร ได้รับเรื่องทั้งหมดไว้ และแจ้งแก่คุณอู๋ว่า คุณอู๋ได้เขียนมาแนบท้ายมาในเอกสารสำเนาบัตรประชาชนของตนเองว่า ขอยกเลิกของลูกน้องอีก 2 คนด้วย ทางเราจึงดำเนินการยกเลิกให้เรียบร้อยแล้วตั้งแต่่เดือน 7 แต่ที่มียอดตัดของเดือนสิงหาคม ทางเรากำลังทำการคืนเงินให้อยู่ เพราะฉะนั้น นายสอง ถือว่าได้ยกเลิกกรมทัณฑ์ไปพร้อมกับคุณอู๋เรียบร้อยแล้ว ให้รอรับเงินค่าเบี้ยประกันคืนจากบัตรเครดิต คุณศิริพรกล่าว ดิฉันดำเนินการโทรคุยกับคุณศิริพร และแจ้งว่า คุณไม่มีหลักฐานการยกเลิกของเจ้าของกรมฑัณฑ์ เพราะฉะนั้น คุณจะมาแจ้งว่ากรมทัณฑ์ยกเลิกแล้ว เป็นไปไม่ได้ เพราะการยกเลิกต้องมีหลักฐานสำเนาบัตรประชาชนเซ็นรับรองสำเนาถูกต้องจากเจ้าของกรมทัณฑ์เท่านั้น คุณศิริพรแจ้งว่า คุณอู๋เป็นคนจ่ายค่าเบี้ยประกันให้ เป็นเจ้าของบัตร เป็นหัวหน้างาน มีสิทธิยกเลิกของลูกน้องได้โดยไม่ต้องใช้บัตร เพียงแค่แจ้งยกเลิก เราก็ยกเลิกให้ ดิฉันแจ้งกลับไปว่า ทำไมเวลาที่คนทำประกันจะยกเลิก โดยที่เจ้าของกรมทัณฑยังมีชีวิตอยู่ ยกเลิกยากมากซะจิงๆ โทรบอกปากเปล่าก็ไม่ได้ แต่ทำไมกรณีเจ้าของกรมทัณฑ์เสียชีวิตแล้ว จึงยกเลิกแสนง่ายดาย เพียงแค่พูดปากเปล่าเท่านั้นหรือ?? ดิฉันแจ้งต่อไปว่า ขอให้คุณนำลายลักษณ์อักษรของกรมการประกันภัย ในเรื่องการยกเลิก ที่ไม่ต้องใช้เอกสารสำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของกรมทัณฑ์มาให้ดิฉันด้วย เพราะดิฉันไม่เคยเจอเคสที่ว่า แค่แจ้งปากเปล่าก็ยกเลิกได้ ถึงแม้เจ้าของบัตรจะเป็นคนแจ้งก็ตาม คุณศิริพร ถามชื่อ และนามสกุลดิฉันกลับ ดิฉันตอบกลับตามความเป็นจริง และคุณศิริพรทิ้งท้ายไว้ว่า จะหาข้อมูลให้ แล้วจะติดต่อกลับ ดิฉันมั่นใจว่า เคสนี้ คุณแม่นายสองต้องได้รับทุนประกันภัยแน่นอน เพราะฟอร์คอน ไม่มีหลักฐานสำเนาบัตรประชาชนขอยกเลิกจากเจ้าของกรมทัณฑ์ ดิฉันคิดถูกต้องไหมค่ะ ขอความคิดเห็นด้วยค่ะ ขอบคุณมาก
คำตอบ: 
ตามข้อเท็จจริงที่กล่าวมา การยกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยเป็นสิทธิของผู้เอาประกันภัย ไม่อาจให้บุคคลอื่นทำการแทนได้ ดังนั้น หากนายสองมิได้ทำการยกเลิกโดยถูกต้อง ประกอบกับบริษัทประกันภัยยังคงรับเบี้ยประกันภัยอยู่ นายสองย่อมได้รับความคุ้มครองตามกรมธรรม์