ประกาศรายชื่อผู้ผ่านการคัดเลือกเพื่อจัดจ้างเป็นลูกจ้างกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย
Attachment | Size |
---|---|
![]() | 180.97 KB |
Attachment | Size |
---|---|
![]() | 180.97 KB |
บอร์ด คปภ. เห็นชอบให้นายทะเบียนสั่ง “เดอะ วัน ประกันภัย” หยุดรับ ประกันวินาศภัยชั่วคราว
• สั่งให้เร่งแก้ไขฐานะการเงินภายในกำหนด คุมเข้มห้ามรับลูกค้ารายใหม่ ต้องจ่ายเคลมลูกค้ารายเดิมตามปกติ
• เลขาธิการ คปภ. สั่งมาตรการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประชาชนอย่างเต็มที่
ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (บอร์ด คปภ.) ครั้งที่ 14/2564 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ได้มีมติเห็นชอบให้บริษัท เดอะ วัน ประกันภัย จำกัด (มหาชน) หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ ได้ปรากฏพฤติการณ์และหลักฐานต่อนายทะเบียนว่า บริษัท เดอะ วัน ประกันภัย จำกัด (มหาชน) มีฐานะการเงินไม่มั่นคง โดยมีหนี้สินเกินกว่าทรัพย์สิน จัดสรรสินทรัพย์หนุนหลัง ไม่เพียงพอตามที่กฎหมายกำหนด มีสินทรัพย์สภาพคล่องไม่เพียงพอสำหรับการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน และปรากฏว่าอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนต่ำกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งปรากฏหลักฐานว่าบริษัทไม่มีเจตนาที่จะแก้ไขฐานะการเงินของบริษัท ทำให้ไม่สามารถมั่นใจได้ว่าบริษัทมีความสามารถในการชำระหนี้ตามภาระผูกพันที่มีต่อผู้เอาประกันภัยหรือประชาชนได้ มีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนล่าช้า อันเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาที่ถือว่าเป็นการประวิงการจ่ายค่าสินไหมทดแทนหรือประวิงการคืนเบี้ยประกันภัยของบริษัทประกันวินาศภัย และยังคงมีจำนวนค่าสินไหมทดแทนคงค้าง
จำนวนมากจนส่งผลกระทบต่อฐานะและการดำเนินการของบริษัท นอกจากนี้ยังมีการกระทำการอันเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายโดยประกาศปิดทำการ โดยไม่ได้แจ้งเหตุผล ส่งผลให้เกิดความตื่นตระหนกต่อผู้เอาประกันภัยและประชาชนจำนวนมาก เนื่องจากเข้าไปติดต่อ ณ ที่ทำการบริษัท แต่ไม่ได้รับการบริการใด ๆ จากบริษัทจากข้อเท็จจริงที่ปรากฏหลักฐานดังกล่าว นายทะเบียนจึงเห็นว่า บริษัท เดอะ วัน ประกันภัย จำกัด (มหาชน) มีฐานะหรือการดำเนินการอยู่ในลักษณะอันอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้เอาประกันภัยหรือประชาชนเพื่อให้การกำกับดูแลและติดตามการแก้ไขปัญหาฐานะและการดำเนินการของบริษัทให้เป็นไปอย่างรอบด้าน ครอบคลุมทั้งการติดตามความมั่นคงทางการเงินและธุรกรรมการดำเนินงานที่ถูกต้องโปร่งใส อันจะทำให้บริษัทดำเนินธุรกิจได้อย่างยั่งยืน รวมถึงป้องกันมิให้เกิดความเสียหายต่อผู้เอาประกันภัยและประชาชนในอนาคต อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 52 วรรคหนึ่งแห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 และแก้ไขเพิ่มเติม ประกอบกับมติคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ในการประชุมครั้งที่ 14/2564 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2564 นายทะเบียนด้วยความเห็นชอบของ บอร์ด คปภ. จึงมีคำสั่งให้บริษัท เดอะ วัน ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ดำเนินการ ดังต่อไปนี้
1. หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว
2. แก้ไขฐานะการเงินให้เพียงพอต่อภาระผูกพัน และให้มีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนเพียงพอตามที่กฎหมายกำหนดภายใน 15 วัน นับแต่วันได้รับคำสั่ง
3. ให้บริษัทเปิดทำการติดต่อกับประชาชนทุกวันตามประกาศ คปภ. ว่าด้วยการกำหนดให้บริษัทประกันวินาศภัยเปิดทำการติดต่อกับประชาชนฯ
4. จัดทำรายงานสรุปรายละเอียดของกรมธรรม์ประกันภัยที่บริษัทจะต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัย เช่น หมายเลขกรมธรรม์ประกันภัย ชื่อผู้เอาประกันภัย จำนวนเงินที่ต้องชดใช้ค่าสินไหมทดแทน และจัดส่งรายงานให้สำนักงาน คปภ. ทุกวันทำการนับแต่วันที่รับทราบคำสั่ง และให้บันทึกรายการในสมุดทะเบียน สมุดบัญชี คำนวณและดำรงเงินสำรองประกันภัย ให้ถูกต้อง ครบถ้วนตามกฎหมาย
5. เร่งรัดการจ่ายค่าสินไหมทดแทนตามสัญญาประกันภัยให้แก่ผู้เอาประกันภัยให้ครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด
6. ให้รายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตาม ตามข้อ 2 ข้อ 3 ข้อ 4 และข้อ 5 ทุกวันทำการ จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
ทั้งนี้ ตามมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 เมื่อนายทะเบียนมีคำสั่งให้บริษัทหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว ห้ามมิให้กรรมการ พนักงาน และลูกจ้างของบริษัทสั่งจ่ายเงินของบริษัท หรือทำการเคลื่อนย้ายหรือจำหน่ายทรัพย์สินของบริษัท เว้นแต่เป็นการจ่ายเงินเดือนหรือค่าจ้างแก่พนักงานหรือลูกจ้างของบริษัทตามปกติ สำหรับการจ่ายเงินอื่นให้เป็นไปตามที่นายทะเบียนกำหนด รวมถึงบริษัทต้องรายงานเป็นหนังสือให้นายทะเบียนทราบถึงบรรดาเจ้าหนี้และลูกหนี้ทั้งหมดของบริษัทภายในระยะเวลานายทะเบียนกำหนด
นอกจากนี้ ในกรณีที่บริษัทไม่สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาฐานะการเงินและการดำเนินงานตามคำสั่งนายทะเบียนได้อย่างครบถ้วนภายในระยะเวลาที่กำหนดข้างต้น หรือปรากฏข้อเท็จจริงว่าบริษัทมีการดำเนินการที่อาจเข้าข่ายการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายเพิ่มเติม หรือนายทะเบียนพิจารณาแล้วเห็นว่าหากรอให้ครบกำหนดระยะเวลาที่กำหนดข้างต้นอาจก่อให้เกิดความเสียหาย ต่อผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน ให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยดำเนินการตามมติคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย ครั้งที่ 14/2564 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ต่อไป
“การออกคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าวจะช่วยให้สำนักงาน คปภ. สามารถคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประชาชนได้เต็มที่ และตามประกาศนายทะเบียน เรื่อง กำหนดการจ่ายเงินของบริษัท ที่นายทะเบียนมีคำสั่งให้หยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว ทำให้สำนักงาน คปภ. สามารถเข้าไปควบคุมการจ่ายเงินต่าง ๆ ของบริษัทได้ทั้งหมด และจัดการเคลียร์ปัญหาการจ่าย ค่าสินไหมทดแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยได้สั่งการไปยังสายตรวจสอบ สายวิเคราะห์ธุรกิจประกันภัย และสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ ตลอดจนสำนักงาน คปภ. ทั่วประเทศ ตรวจสอบสาขา/สำนักงานตัวแทนของบริษัท ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบและให้ดำเนินการแจ้งการสั่งหยุดรับประกันวินาศภัยเป็นการชั่วคราว เพื่อป้องกันไม่ให้บริษัท/ตัวแทน/นายหน้าประกันภัย ขายกรมธรรม์รายใหม่ในระหว่างการหยุดรับประกันภัย พร้อมทั้ง ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะเจ้าหน้าที่เข้าไปประจำที่บริษัทอย่างเต็มพิกัด เพื่อควบคุมให้บริษัทดำเนินการให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน หากพบว่าบริษัทไม่ได้ดำเนินการตามเงื่อนไขที่กำหนด ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อผู้เอาประกันภัยหรือประชาชน ก็จะดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมายในระดับที่เข้มข้นยิ่งขึ้นต่อไป สำหรับการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการและผู้บริหารของบริษัท สำนักงาน คปภ. จะตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป หากพบว่ามีการกระทำความผิดจะดำเนินการตามมาตรการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ หากประชาชนมีข้อสงสัยหรือไม่ได้รับความเป็นธรรม ติดต่อได้ที่สายด่วน คปภ. 1186 หรือ www.oic.or.th” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย
คปภ. ชี้แจง กรณีบริษัท เดอะ วัน ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ประกาศปิดปรับปรุงชั่วคราว
คปภ. เปิดเวทีประชุม CEO Insurance Forum 2021 ระดมความคิดเห็นภาคธุรกิจประกันภัยมุ่งขับเคลื่อนนโยบาย เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมและสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชน
คปภ. ส่งรักทั่วไทย ให้คนไทยอุ่นใจเมื่อมีประกันภัย พ.ร.บ.
• คปภ. ผนึกกำลังทั่วทุกภาค สร้างความอุ่นใจให้คนไทยมอบ พ.ร.บ. 1 หมื่นฉบับ ดึงดารา นักแสดงแพนเค้ก เขมนิจ และ ท็อป จรณ กระตุ้นประชาชน ใส่ใจทำ พ.ร.บ. เพื่อเป็นหลักประกันความคุ้มครอง พร้อมเตรียมจัดกิจกรรม “ส่งรักทั่วไทย อุ่นใจเมื่อมีประกันภัย พ.ร.บ.” ใน 3 จังหวัดกาญจนบุรี อุดรธานี และลำปาง
วันนี้ (23 พฤศจิกายน 2564) ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานในพิธีแถลงข่าว และประกาศเจตนารมณ์ขับเคลื่อน โครงการ “พ.ร.บ.รุกทั่วไทย” ในรูปแบบ Virtual Event โดยมีผู้แทนสำนักงาน คปภ. ภาค ทั้ง 9 ภาค ทั่วประเทศ ผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนักเรียนนักศึกษา ประชาชน ร่วมงานผ่านระบบ Zoom และ และรับชมงานได้ที่ Facebook และ Youtube กองทุนทดแทนผู้ประสบภัย
เลขาธิการ คปภ. เปิดเผยว่า การประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 หรือประกันภัย พ.ร.บ. ถือเป็นประกันภัยภาคบังคับที่กฎหมายกำหนดให้เจ้าของรถ หรือผู้ครอบครองรถสำหรับรถทุกคันทุกประเภท ต้องจัดทำเพื่อเป็นหลักประกันให้กับผู้ประสบภัยจากรถทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร รวมถึงคนเดินเท้า หากได้รับความเสียหายแก่ชีวิต บาดเจ็บ ทุพพลภาพ สูญเสียอวัยวะ จะได้รับการเยียวยาค่ารักษาพยาบาลตามจริง ไม่เกินวงเงินความคุ้มครองของกรมธรรม์ (กรณีบาดเจ็บคุ้มครองสูงสุด 80,000 บาท กรณีเสียชีวิตคุ้มครองสูงสุด 500,000 บาท) แต่ในปัจจุบันยังมีผู้ประสบภัยจากรถเป็นจำนวนมากที่ได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถเข้าถึงสิทธิจากการประกันภัยดังกล่าวได้ นอกจากนี้ จากข้อมูลอุบัติเหตุทางถนนปี 2563 พบว่า มีอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ปี 2563 รวม 17,831 คน คิดเป็นอัตราการเสียชีวิตร้อยละ 27.20 ต่อประชากร 1 แสนคน และจากสถิติการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้แก่ผู้ประสบภัยจากรถ ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2564 พบว่ามีการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้แก่ผู้ประสบภัยจากรถเป็นจำนวนกว่า 151 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ามีจำนวนรถที่ไม่จัดทำประกันภัย พ.ร.บ. เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ กองทุนทดแทนผู้ประสบภัย ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงาน คปภ. มีบทบาทหน้าที่ที่สำคัญในการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้น (กรณีบาดเจ็บ 30,000 บาท กรณีเสียชีวิต 35,000 บาท) เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากรถให้ได้รับการเยียวยาอย่างทันท่วงที ในกรณีรถที่ก่อให้เกิดความเสียหายไม่มีประกันภัยรถภาคบังคับ (ประกันภัยพ.ร.บ.) หรือผู้ประสบภัยไม่อาจเข้าถึงสิทธิจากการประกันภัยได้ จึงได้จัดทำ โครงการ “พ.ร.บ.รุกทั่วไทย” ขึ้น เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถได้เห็นความสำคัญของประกันภัยรถภาคบังคับ (ประกันภัยพ.ร.บ.) และบทลงโทษจากการไม่ทำประกันภัยรถภาคบังคับ โดยเน้นการรณรงค์ในเชิงรุกเพื่อให้เข้าถึงประชาชนทั่วทุกภาค ผ่านโครงการ “พ.ร.บ.รุกทั่วไทย” ที่มีการดำเนินการในรูปแบบทั้ง Online และ Offline ซึ่งจะมีกิจกรรมที่มอบทั้งสาระความรู้ และความบันเทิงอย่างครบถ้วน
สำหรับการดำเนินงานในโครงการ “พ.ร.บ.รุกทั่วไทย” ประกอบด้วย 2 กิจกรรม ได้แก่
1. กิจกรรม “ส่งรักทั่วไทย อุ่นใจเมื่อมีประกันภัย พ.ร.บ.” เป็นกิจกรรมให้ความรู้แก่ประชาชนในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยในวันนี้นอกจากการแถลงข่าวจากกรุงเทพมหานครผ่านสื่อออนไลน์ไปยังผู้ชมทั่วประเทศแล้ว ยังมีกิจกรรมพบปะพี่น้องภาคใต้ จังหวัดสงขลาพร้อมกัน และอีก 3 ครั้ง เราจะไปพบพี่น้องภาคตะวันตกที่จังหวัดกาญจนบุรี ในวันที่ 16 ธันวาคม 2564 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่จังหวัดอุดรธานี ในวันที่ 21 ธันวาคม 2564 และภาคเหนือที่จังหวัดลำปาง ในเดือนมกราคม 2565 ส่วนภาคอื่น ๆ สำนักงาน คปภ. จังหวัดทั่วประเทศ พร้อมให้ความรู้ด้านประกันภัย พ.ร.บ. กับประชาชนอย่างเต็มที่
2. กิจกรรมสร้างการเข้าถึงกรมธรรม์ประกันภัย พ.ร.บ. จำนวน 10,000 ฉบับ ซึ่งเป็นกิจกรรมที่ สำนักงาน คปภ. มีความตั้งใจที่จะให้ระบบประกันภัยได้เข้ามาช่วยบริหารความเสี่ยง และเยียวยาความสูญเสียต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนผู้ใช้รถ ใช้ถนน และเนื่องในโอกาสที่ใกล้จะถึงเทศกาลส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ 2565 สำนักงาน คปภ. จึงปรารถนาที่จะส่งมอบ พ.ร.บ. ทั้ง 10,000 ฉบับนี้ เป็นของขวัญปีใหม่ แทนความห่วงใยจากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย สำนักงาน คปภ. ให้กับพี่น้องประชาชนผู้เป็นเจ้าของรถ โดยท่านสามารถเข้าไปลงทะเบียน เพื่อรับประกันภัย พ.ร.บ. ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตามเงื่อนไขที่กำหนดที่ www.พรบรุกทั่วไทย.com ในการแถลงข่าวครั้งนี้ยังมีพิธีกรมากความสามารถมากมาย อาทิ ดาว อภิสรา ดารานักแสดง แพนเค้ก เขมนิจ และ ท็อป จรณ ร่วมแสดงเจตนารมณ์ขับเคลื่อนโครงการ “พ.ร.บ. รุกทั่วไทย” รวมทั้งมินิคอนเสิร์ตจาก จ๊ะ นงผณี และกิจกรรมการเล่นเกมแจกของรางวัลกับพิธีกรคู่ นุ้ย ธนวัฒน์ (ดีเจนุ้ย) และ ดาด้า วรินดา (ดีเจดาด้า) เพื่อให้ประชาชนผู้เป็นเจ้าของรถหรือผู้ครอบครองรถทุกคน โดยเฉพาะเจ้าของรถจักรยานยนต์ ได้ตระหนักถึงหน้าที่และความรับผิดชอบต่อตนเอง ครอบครัว และสังคม รวมทั้งเห็นความสำคัญของการมีประกันภัยรถภาคบังคับ (ประกันภัย พ.ร.บ.)
“ประกันภัย พ.ร.บ. ถือเป็นสิ่งจำเป็นขั้นพื้นฐานสำหรับการใช้รถ ใช้ถนน เพราะประกันภัย พ.ร.บ. เป็น สิ่งแรกที่เข้ามาช่วยเยียวยาเมื่อประสบอุบัติเหตุจากรถ ดังนั้น ผู้เป็นเจ้าของรถและผู้ครอบครองรถทุกคนจึงควร ที่จะทำและอย่าปล่อยให้ประกันภัย พ.ร.บ.ขาด เพราะเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายซึ่งมีโทษปรับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถจักรยานยนต์ที่นอกจากจะมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุมากที่สุดแล้ว ยังพบว่าส่วนใหญ่ยังเป็นรถที่ไม่มีการจัดทำประกันภัย พ.ร.บ. มากที่สุดอีกด้วย ซึ่งสำนักงาน คปภ. หวังเป็นอย่างยิ่งว่า โครงการ พ.ร.บ.รุกทั่วไทย ที่จัดขึ้นนี้ จะสร้างความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชนทั่วประเทศ และสามารถทำให้ประชาชนเข้าถึงระบบประกันภัย และนำระบบประกันภัยมาเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงจากการใช้รถใช้ถนน และยังเป็นการปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนทุกคนช่วยกันรับผิดชอบต่อส่วนรวมหรือต่อผู้ใช้รถใช้ถนนร่วมกันอีกด้วย ทั้งนี้ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกันภัย พ.ร.บ. สามารถสอบถามได้ที่สายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ.กล่าว ในตอนท้าย
คปภ. สั่งบริษัทจ่ายเคลมกรณี "น้องหญิง" นักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถรถเบนซ์เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ ที่บุรีรัมย์ พร้อมดำเนินคดีในข้อหาประวิงการจ่ายค่าสินไหมทดแทน เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชน
Attachment | Size |
---|---|
![]() | 115.44 KB |
คปภ. จัดสัมมนาวิชาการประกันภัยประจำปี Thailand Insurance Symposium 2021
ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า ตามที่สมาคมประกันภัยวินาศภัยไทย มีหนังสือลงวันที่ 28 ตุลาคม 2564 ถึงประธานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (ประธานบอร์ด คปภ.) ขอให้พิจารณาทบทวน Macroprudential Supervision สำหรับการรับประกันภัยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) พิจารณาทบทวนคำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 เรื่อง ให้ยกเลิกเงื่อนไขการใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโดยบริษัท ในกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 สำหรับบริษัทประกันวินาศภัย ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 และต่อมานายกสมาคมประกันวินาศภัยมีหนังสือลงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ขอเข้าพบเพื่อรายงานสถานการณ์วิกฤตจากการรับประกันภัย COVID-19 แบบเจอจ่ายจบ รวมทั้งนายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย ได้ให้ข่าวต่อสื่อมวลชนเรื่อง ข้อกำหนดห้ามไม่ให้บริษัทรับประกันเพื่อวินาศภัยอันเดียวกันเกินกว่า 10% ของเงินกองทุนตามพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เนื่องจากหากเกิดความเสียหายขนาดใหญ่ขึ้นแล้วการจ่าย ค่าสินไหมทดแทนจำนวนมาก อาจส่งผลกระทบต่อฐานะความมั่นคงทางการเงินของบริษัทได้ ซึ่งจะเห็นว่ากรณีการจ่ายค่าสินไหมทดแทนประกันภัย COVID-19 ถือเป็นความเสี่ยงอุบัติใหม่ และได้ส่งผลกระทบต่อเงินกองทุนของบริษัทประกันวินาศภัยเกินกว่า 10% ไปเป็นจํานวนมาก นั้น
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว และป้องกันมิให้ปัญหาลุกลามบานปลาย สำนักงาน คปภ. จึงได้มีหนังสือเชิญนายกสมาคมฯ และกรรมการบริหารสมาคมฯ ทุกคนเข้าประชุมหารือกับเลขาธิการ คปภ. และคณะผู้บริหารของสำนักงาน คปภ. และรับทราบข้อมูลเพิ่มเติมในวันนี้ (วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564) โดยมี บริษัทประกันวินาศภัยที่เสนอขายประกันภัย COVID-19 แบบเจอจ่ายจบ เข้าร่วมประชุมด้วย
ทั้งนี้ ในวันนี้ (15 พฤศจิกายน 2564) นายกสมาคมประกันวินาศภัยไทยและกรรมการบริหารสมาคมฯ ได้ให้ข้อมูลว่า สถานการณ์ที่ผ่านมาและประมาณการค่าสินไหมทดแทนประกันภัย COVID-19 ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตของบริษัทประกันวินาศภัยที่เสนอขายประกันภัย COVID-19 แบบเจอจ่ายจบ จะส่งผลกระทบต่อเงินกองทุนของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญซึ่งอาจจะส่งผลให้บริษัทมีปัญหาเกี่ยวกับฐานะทางการเงิน ส่วนประเด็นการขอยกเลิกคำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 สมาคมฯ ให้ข้อมูลว่าการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนประมาณกว่า 30,000 ล้านบาท ซึ่งคาดการณ์ว่าในอนาคตจะสูงขึ้นอีก จึงมีความจำเป็นที่ต้องขอยกเลิกคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าวเพื่อลดผลกระทบต่อบริษัทประกันวินาศภัยที่รับประกันภัย COVID-19 ที่ประชุมมีความเห็นตรงกันให้ยึดถือประโยชน์ของประชาชนผู้เอาประกันภัยเป็นสำคัญในการแก้ไขปัญหา โดยสำนักงาน คปภ. ยินดีที่จะรับฟังข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมของรายบริษัทประกันวินาศภัยที่เสนอขายประกันภัย COVID-19 แบบเจอจ่ายจบเพื่อพิจารณามาตรการเยียวยาผลกระทบให้ตรงกับปัญหาของแต่ละบริษัท และส่งเสริมการทำทางเลือกให้ผู้เอาประกันภัยเลือกเปลี่ยนความคุ้มครองหรือประเภทกรมธรรม์ประกันภัยหรือทางเลือกอื่น ๆ ด้วยความสมัครใจของผู้เอาประกันภัย จึงเห็นว่าบริษัทที่ประสบปัญหาสามารถใช้แนวทางนี้ในการบรรเทาผลกระทบไปก่อนได้ ส่วนประเด็นที่ยังเห็นไม่สอดคล้องกันในเรื่อง การขอยกเลิกเงื่อนไข การใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโดยบริษัท ในกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 สำหรับบริษัทประกันวินาศภัย เพราะสำนักงาน คปภ. เห็นว่าจะส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้เอาประกันภัยเป็นจำนวนมาก อีกทั้งจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมประกัยภัยโดยภาพรวมด้วย ซึ่งสำนักงาน คปภ. จะได้มีการหารือร่วมกัน เพื่อให้ได้มาตรการที่เหมาะสมต่อไป
เมื่อเสร็จสิ้นการประชุมกับสมาคมฯ แล้ว เลขาธิการ คปภ. ได้ประชุมร่วมกับรองเลขาธิการ คปภ. ทั้งสามด้าน รวมทั้งผู้ช่วยเลขาธิการ สายงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งที่ประชุมมีมติดังนี้
1. การดำเนินการในแก้ปัญหา สำนักงาน คปภ. จะยึดถือประโยชน์สูงสุดของประชาชนผู้เอาประกันภัยเป็นสำคัญ
2. คำสั่งนายทะเบียนที่ 38/2564 เรื่อง ให้ยกเลิกเงื่อนไขการใช้สิทธิบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัยโดยบริษัท ในกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 สำหรับบริษัทประกันวินาศภัย ลงวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 ยังมีผลบังคับตามกฎหมายอยู่ บริษัทต้องปฏิบัติตามคำสั่งนายทะเบียนดังกล่าว ส่วนประเด็นที่ยังเห็นไม่สอดคล้องกัน จะได้มีการหารือร่วมกัน เพื่อให้ได้มาตรการ ที่เหมาะสมต่อไป
3. สำนักงาน คปภ. ได้รับทราบความเดือดร้อนของภาคธุรกิจและยินดีให้ความช่วยเหลือเพื่อให้พ้นวิกฤต โดยที่ผ่านมา คปภ. ได้ผ่อนคลายกฎกติกาให้ไปแล้วหลายเรื่อง แต่มาตรการการช่วยเหลือบริษัทที่จะช่วยแก้ปัญหาได้ตรงจุด จะต้องขึ้นอยู่กับสถิติ ตัวเลขข้อมูลต่าง ๆ ที่ถูกต้อง แม่นยำและผลกระทบต่าง ๆ ในทุกมิติ ซึ่งต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ และที่สำคัญจะต้องไม่ทำให้ผู้เอาประกันภัยเดือดร้อน และต้องไม่เป็นการรอนสิทธิของประชาชนผู้เอาประกันภัย
4. จะเร่งเชิญบริษัทประกันวินาศภัยที่เสนอขายกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 แบบเจอจ่ายจบ มาสอบถามและขอข้อมูลเพิ่มเติมประกอบการจัดทำ Stress Test เพื่อประเมินความทนทานของรายบริษัทและระบบประกันภัยภายใต้สถานการณ์ความเสี่ยงจำลองสำหรับการแพร่ระบาดของ COVID-19
5. บริษัทประกันวินาศภัยที่ได้รับผลกระทบจากการเสนอขายประกันภัย COVID-19 แบบเจอจ่ายจบ อาจพิจารณา เข้าร่วมโครงการผ่อนผันเพิ่มเติม เพื่อเสริมมาตรการเยียวยาให้บริษัทมีสภาพคล่องพร้อมที่จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนประกันภัย COVID-19 ให้กับผู้เอาประกันภัยได้มากขึ้น
6. หากสมาคมฯ ต้องการเสนอมาตรการผ่อนผันเพิ่มเติมเพื่อช่วยเหลือบริษัทประกันวินาศภัยที่ได้รับผลกระทบ ให้เร่งนำเสนอ เพื่อสำนักงาน คปภ. จะได้กลั่นกรองและเร่งนำเสนอต่อบอร์ด คปภ. โดยเร็ว
7. ในระหว่างที่มีการดำเนินการข้างต้น หากบริษัทประกันวินาศภัยใดที่ประสบปัญหาต้องการดำเนินการเพื่อมิให้ปัญหาการขาดสภาพคล่องลุกลามบานปลาย การเสนอแนวทางปรับปรุงเงื่อนไขของกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 โดยเสนอทางเลือก\ที่น่าสนใจในการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยประเภทเดิม หรือปรับเปลี่ยนไปให้ความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยประเภทอื่นที่อาจเป็นประโยชน์แก่ผู้เอาประกันภัยมากขึ้น สามารถกระทำได้เฉพาะกรณีที่เป็นเรื่อง ความสมัครใจของผู้เอาประกันภัยเท่านั้น บริษัทไม่สามารถไปบังคับผู้เอาประกันภัยให้ยอมรับการบอกเลิกกรมธรรม์ประกันภัย หรือยอมรับเงื่อนไขความคุ้มครองใหม่ของบริษัท ดังนั้น การเปลี่ยนสิทธิหน้าที่หรือความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัยจะสามารถกระทำได้เฉพาะในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยได้มีการแสดงเจตนา หรือให้ความยินยอมโดยชัดแจ้งในการตอบรับข้อเสนอของบริษัทเท่านั้น นอกจากนี้ ในกรณีของบริษัท เดอะ วัน ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้ให้ผู้บริหารของบริษัทชี้แจงและได้ตรวจสอบ\ข้อเท็จจริงแล้ว ได้รับการยืนยันว่า การดำเนินการของบริษัทเป็นการเสนอทางเลือกให้กับผู้เอาประกันภัย โดยเป็นไป ด้วยความสมัครใจของผู้เอาประกันภัย จะไม่มีการบังคับผู้เอาประกันภัยแต่อย่างใด โดยเป็นวิธีการที่บริษัทพยายามหาแนวทางบริหารความเสี่ยงเพื่อลดปัญหาการขาดสภาพคล่องเพื่อให้อยู่รอดได้ และยืนยันจะปฏิบัติตามคำสั่งนายทะเบียน โดยสำนักงาน คปภ.ได้กำชับให้บริษัทดำเนินการดังกล่าว ด้วยความสมัครใจของผู้เอาประกันภัย หากผู้เอาประกันภัยไม่ยอมรับทางเลือกที่เป็นข้อเสนอของบริษัท สัญญาประกันภัยของผู้เอาประกันภัยก็ยังมีผลบังคับต่อไปเหมือนเดิมทุกประการ
“ขอให้ผู้เอาประกันภัยมั่นใจว่า สำนักงาน คปภ. จะดำเนินการอย่างเต็มที่ และจะติดตามเรื่องดังกล่าวอย่างใกล้ชิด เพื่อคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนผู้เอาประกันภัย แต่อย่างไรก็ตาม ก็พร้อมที่จะรับฟังและหามาตรการเยียวยาปัญหาให้บริษัทประกันวินาศภัยที่ได้รับผลกระทบจากการเสนอขายประกันภัย COVID-19 ด้วย เพราะการประกอบธุรกิจประกันภัยต้องอยู่ได้ด้วยความเชื่อมั่นของประชาชน” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2564 ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานในพิธีมอบกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มแก่บุคคลที่ปฏิบัติหน้าที่ประจำชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านและราษฎรที่มีจิตอาสาในการดูแลเฝ้าระวังจากการบุกรุกของช้างป่า ในตำบลสาลิกา อำเภอเมือง และตำบลนาหินลาด อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก เพื่อช่วยเหลือเยียวยาผู้ปฏิบัติภารกิจรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านและการดูแลเฝ้าระวังจากการบุกรุกของช้างป่าที่มาทำความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว โดยมีคณะผู้บริหาร ของสำนักงาน คปภ. ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค และคณะผู้บริหาร ของจังหวัดนครนายก ร่วมส่งมอบกรมธรรม์จำนวน 39 ราย ให้กับนายอุดมเขต ราษฎร์นุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก ณ โรงแรมรอยัล ฮิลล์ จังหวัดนครนายก ในโอกาสนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก กล่าวขอบคุณสำนักงาน คปภ. ที่สนับสนุนกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มดังกล่าว ซึ่งการรับมอบในครั้งนี้ มีคุณค่าและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการนำระบบประกันภัยเป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงภัยให้กับอาสาสมัครผู้ปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ โดยไม่มีค่าตอบแทนและสวัสดิการใด ๆ รองรับ อีกทั้งเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับอาสาสมัครได้อุ่นใจในขณะปฏิบัติงานรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านและการดูแลเฝ้าระวังจากการบุกรุกของช้างป่าอีกด้วย
เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงาน คปภ. ภาค 4 (นครราชสีมา) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดนครนายก ได้บูรณาลงพื้นที่และทราบการขอการสนับสนุนการประกันภัย เพื่อรองรับความเสี่ยงภัยของผู้ปฏิบัติภารกิจรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านและการดูแลเฝ้าระวังจากการบุกรุกของช้างป่า ในตำบลสาลิกา อำเภอเมือง และตำบลนาหินลาด อำเภอปากพลี จากผู้ว่าราชการจังหวัดนครนายก สำนักงาน คปภ. ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจประกันภัย รวมถึงคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชน และส่งเสริมการทำประกันภัย ได้ตระหนักถึงความสำคัญของผู้ปฏิบัติภารกิจรักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านและการดูแลเฝ้าระวังจากการบุกรุกของช้างป่า เนื่องจากเป็นภารกิจที่มีอันตรายและมีความเสี่ยงสูง หากไม่มีผู้ที่มีจิตอาสาเข้ามาปฏิบัติภารกิจดังกล่าว อาจทำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการบุกรุกของช้างป่าที่มาทำความเสียหายต่อชีวิต ร่างกายและทรัพย์สินมากขึ้น อีกทั้ง ที่ผ่านมา พบว่า เหล่าผู้ปฏิบัติหน้าที่และอาสาสมัครรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านและการดูแลเฝ้าระวังจากการบุกรุกของช้างป่าได้รับบาดเจ็บจากช้างป่าทำร้ายร่างกายอยู่บ่อยครั้ง โดยที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่และอาสาสมัครเหล่านั้นไม่ได้เป็นข้าราชการหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ และไม่มีสวัสดิการรองรับที่เพียงพอกับความเสี่ยงภัยที่เกิดขึ้น จึงได้สนับสนุนการประกันภัยให้แก่บุคคลผู้ปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระครอบครัวและรองรับความเสี่ยงภัยที่อาจเกิดขึ้นต่อชีวิต และร่างกาย โดยมอบ “กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุกลุ่มอาสาเฝ้าระวังช้างป่า” ให้กับผู้ปฏิบัติหน้าที่และอาสาสมัคร จำนวน 39 ราย ซึ่งมีระยะเวลาเอาประกันภัยขณะเข้าปฏิบัติหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านและการดูแลเฝ้าระวังจากการบุกรุกของช้างป่า ตั้งแต่วันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ถึงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 ด้วยเบี้ยประกันภัย 603 บาทต่อราย ให้ความคุ้มครองใน 2 กรณีหลัก ได้แก่ กรณีการเสียชีวิต การสูญเสียอวัยวะ สายตา หรือทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิง เนื่องจากอุบัติเหตุทั่วไปขณะเข้าปฏิบัติภารกิจ รวมถึงอุบัติเหตุขณะขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ และการถูกฆาตกรรมหรือลอบทำร้ายร่างกาย ให้ความคุ้มครองเป็นจำนวนเงินเอาประกันภัย 100,000 บาท และกรณีค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุแต่ละครั้ง ให้ความคุ้มครองเป็นจำนวนเงินเอาประกันภัย 10,000 บาท โดยสำนักงาน คปภ. สนับสนุนด้วยเงินสวัสดิการของสำนักงานฯ เป็นค่าเบี้ยประกันภัยจำนวน 23,517 บาท และบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เป็นผู้รับประกันภัย
“ต้องขอชื่นชมและยกย่องผู้ที่มีจิตอาสาปฏิบัติภารกิจที่มีความเสี่ยง ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่เสียสละ สมควรที่จะได้รับการสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือในด้านสวัสดิการต่าง ๆ อย่างเต็มที่และเพียงพอ ดังนั้น เพื่อให้กลุ่มอาสารักษาความปลอดภัยหมู่บ้านและการดูแลเฝ้าระวังจากการบุกรุกของช้างป่า มีขวัญกำลังใจในการปฏิบัติภารกิจต่อไป สำนักงาน คปภ. พร้อมที่จะบูรณาการความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับทุกภาคส่วน ทั้งหน่วยงานราชการ เอกชนและชุมชนในพื้นที่ เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ที่เสียสสะ และหวังว่าระบบประกันภัยจะเป็นอีกเครื่องมือหนึ่งในการสนับสนุนและช่วยเหลือประชาชนได้” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย