ข่าว

ประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อเข้ารับการพิจารณาคัดเลือกเสนอชื่อเป็นเลขาธิการ คปภ.

< >
วันที่เผยแพร่: 
29 May 2566

หมวดหมู่ข่าว: 

รับสมัครลูกจ้างผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน จำนวน 2 อัตรา (ด้านกฎหมาย และด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย)

รับสมัครบุคคลภายนอกเพื่อช่วยปฏิบัติงานสายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ ประจำปี ๒๕๖๕ จำนวน ๑๐ อัตรา

ประกาศรับสมัครงาน

คปภ. ลงพื้นที่ทันทีให้ความช่วยเหลือด้านประกันภัย กรณีพายุพัดถล่มหลังคาโดมโรงเรียนวัดเนินปอเป็นเหตุให้ “นักเรียน-โค้ชฝึกสอนฟุตบอล-ประชาชน” เสียชีวิต 7 ราย บาดเจ็บ 18 ราย ที่จังหวัดพิจิตร

< >
<
>
วันที่เผยแพร่: 
23 May 2566

คปภ. ลงพื้นที่ทันทีให้ความช่วยเหลือด้านประกันภัย กรณีพายุพัดถล่มหลังคาโดมโรงเรียนวัดเนินปอเป็นเหตุให้ “นักเรียน-โค้ชฝึกสอนฟุตบอล-ประชาชน” เสียชีวิต 7 ราย บาดเจ็บ 18 ราย ที่จังหวัดพิจิตร

 

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า จากกรณีพายุฝนกระหน่ำและลูกเห็บตก บริเวณบ้านเนินปอ หมู่ 1 ตำบลเนินปอ อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ทำให้ไฟฟ้าดับเป็นวงกว้าง ต้นไม้ล้ม อาคารบ้านเรือนของชาวบ้านพังเสียหายจำนวนมาก และความแรงลมได้พัดหลังคาโดมของโรงเรียนวัดเนินปอ พังถล่มลงมาทับนักเรียน โค้ชฝึกสอนฟุตบอล และประชาชนที่หลบฝนอยู่ในบริเวณดังกล่าว เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 7 ราย และบาดเจ็บ 18 ราย โดยผู้บาดเจ็บถูกนำส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสามง่าม 13 ราย และโรงพยาบาลพิจิตร จำนวน 5 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2566 นั้น เบื้องต้นได้สั่งการให้สายคุ้มครองสิทธิประโยชน์ บูรณาการร่วมกับสายส่งเสริมและประกันภัยภูมิภาค สำนักงาน คปภ. ภาค 2 (นครสวรรค์) และสำนักงาน คปภ. จังหวัดพิจิตร ในฐานะเจ้าของพื้นที่เกิดเหตุ ตรวจสอบการทำประกันภัยพร้อมทั้งติดตามรายงานความเสียหายอย่างเร่งด่วนผ่าน Platform การรายงานข้อมูลกรณีอุบัติภัยกลุ่มหรือรายใหญ่ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งให้ลงพื้นที่เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัยให้กับครอบครัวของผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ เพื่อให้ระบบประกันภัยช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นธรรม 

 

ทั้งนี้ ได้รับรายงานจากสำนักงาน คปภ. จังหวัดพิจิตร ซึ่งได้ลงพื้นที่ทันทีพบว่า ผู้ประสบภัยที่เสียชีวิตทั้ง 7 ราย ประกอบด้วย นักเรียนโรงเรียนวัดเนินปอ 2 ราย โค้ชฝึกสอนฟุตบอล 1 ราย ประชาชน 2 ราย และนักเรียนโรงเรียนเนินปอรังนกชนูทิศ 2 ราย และจากการตรวจสอบการทำประกันภัยเบื้องต้นพบว่าโรงเรียนวัดเนินปอ ทำประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ไว้กับบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เริ่มคุ้มครองวันที่ 15 พฤษภาคม 2566 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 โดยกรมธรรม์ให้ความคุ้มครองสำหรับเป็นค่ารักษาพยาบาลตามจริงไม่เกินวงเงินจำนวน 6,000 บาท ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตภายนอกโรงเรียนจำนวน 60,000 บาทต่อราย และความคุ้มครองกรณีนักเรียนเสียชีวิตภายในโรงเรียนจำนวน 120,000 บาทต่อราย 

 

สำหรับการติดตามค่าสินไหมทดแทนให้กับครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ สำนักงาน คปภ. จังหวัดพิจิตร ได้ประสานงานไปยังบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) แล้ว ซึ่งบริษัทตกลงจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ทายาทผู้ประสบภัยที่เสียชีวิตในวันศุกร์ที่ 26 พฤษภาคม 2566 โดยนักเรียนโรงเรียนวัดเนินปอ 2 ราย จะได้รับค่าสินไหมทดแทนรายละ 120,000 บาท ส่วนโค้ชฝึกสอนฟุตบอลจะได้รับค่าสินไหมทดแทนจำนวน 560,000 บาท โดยได้รับความคุ้มครองจากบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) จำนวน 60,000 บาท และจากการทำประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคลไว้กับบริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เริ่มคุ้มครองวันที่ 27 มกราคม 2566 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 26 มกราคม 2567 โดยกรมธรรม์ประกันภัยให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต จำนวน 500,000 บาท  ในส่วนของนักเรียนโรงเรียนเนินปอรังนกชนูทิศ 2 ราย ตรวจสอบพบว่าทางโรงเรียนฯ ได้ทำประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ไว้กับบริษัท ชับบ์สามัคคีประกันภัย จำกัด (มหาชน) เริ่มคุ้มครองวันที่ 1 พฤษภาคม 2566 สิ้นสุดความคุ้มครองวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 โดยกรมธรรม์ให้ความคุ้มครองสำหรับเป็นค่ารักษาพยาบาลตามจริงไม่เกินวงเงินจำนวน 10,000 บาท และความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตจำนวน 100,000 บาท ซึ่งบริษัทตกลงจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่ทายาทผู้ประสบภัยที่เสียชีวิต จำนวน 2 รายๆ ละ 100,000 บาท  และประชาชน 2 ราย ที่เสียชีวิตด้วยนั้น ในเบื้องต้นจากการตรวจสอบยังไม่พบข้อมูลการทำประกันภัยแต่อย่างใด ทั้งนี้หากตรวจสอบพบว่ามีการทำประกันภัยภายหลัง สำนักงาน คปภ. จะช่วยประสานงานอำนวยความสะดวกและติดตามอย่างใกล้ชิดให้บริษัทประกันภัยจ่ายค่าสินไหมทดแทนอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นธรรมต่อไป สำหรับผู้บาดเจ็บ 18 ราย ที่เข้ารับการรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลสามง่าม และโรงพยาบาลพิจิตร ทางสำนักงาน คปภ. จังหวัดพิจิตร ได้ประสานบริษัทประกันภัยและโรงพยาบาล เพื่อรับรองสิทธิค่ารักษาพยาบาลให้กับผู้บาดเจ็บที่มีสิทธิเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. จะบูรณาการการทำงานร่วมกับสมาคมประกันชีวิตไทย และสมาคมประกันวินาศภัยไทย เพื่อตรวจสอบเพิ่มเติมว่าผู้ประสบภัยที่เสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้มีการทำประกันภัยประเภทอื่น ๆ ไว้ด้วยหรือไม่ หากตรวจสอบพบภายหลังว่าผู้ประสบภัยมีการทำประกันภัยประเภทอื่น ๆ เพิ่มเติมอีกก็จะช่วยประสานงานให้ได้รับค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติมตามสัญญาประกันภัยที่ระบุไว้ 

 

“สำนักงาน คปภ.ขอแสดงความเสียใจอย่างยิ่งกับครอบครัวของผู้ประสบภัยที่เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจากภัยธรรมชาติในครั้งนี้ และพร้อมจะดูแลในด้านประกันภัยอย่างเต็มที่ ทั้งนี้อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลาและกับทุกคน 

เพื่อความอุ่นใจ ควรให้ความสำคัญกับการทำประกันภัยเพื่อให้ระบบประกันภัยช่วยบริหารความเสี่ยงและเยียวยาความสูญเสียต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมด้านประกันภัย ติดต่อสายด่วน คปภ. 1186” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย

 

หมวดหมู่ข่าว: 

รองเลขาธิการ คปภ. นำคณะผู้บริหาร สำนักงาน คปภ. บันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี

< >
<
>
วันที่เผยแพร่: 
22 May 2566

รองเลขาธิการ คปภ. นำคณะผู้บริหาร สำนักงาน คปภ. บันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี

ดร.สุทธิพล  ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) มอบหมาย นายชูฉัตร  ประมูลผล รองเลขาธิการ คปภ. เป็นผู้แทนนำคณะผู้บริหาร สำนักงาน คปภ. บันทึกเทปถวายพระพรชัยมงคล สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2566 เพื่อร่วมแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี ณ สถานีโทรทัศน์ช่อง 9 MCOT HD เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2566
หมวดหมู่ข่าว: 

เลขาธิการ คปภ. เชิญชวนประชาชนใช้บริการเว็บไซต์ “กูรูประกันภัย” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเปรียบเทียบกรมธรรม์ประกันภัยออนไลน์ของบริษัทประกันภัยต่าง ๆ เผยมีผู้ใช้บริการแล้ว กว่า 179,082 ครั้ง

< >
วันที่เผยแพร่: 
21 May 2566

เลขาธิการ คปภ. เชิญชวนประชาชนใช้บริการเว็บไซต์ “กูรูประกันภัย” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเปรียบเทียบกรมธรรม์ประกันภัยออนไลน์ของบริษัทประกันภัยต่าง ๆ เผยมีผู้ใช้บริการแล้ว กว่า 179,082 ครั้ง

 
ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เปิดเผยว่า สำนักงาน คปภ. ได้มีการปรับตัวให้เข้าสู่ยุค Next Normal อย่างต่อเนื่องด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินการทั้งด้านการกำกับและส่งเสริมภาคธุรกิจประกันภัย การคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัยให้มีความสะดวก รวดเร็ว และง่ายต่อการเข้าถึงข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์และการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ  โดยเฉพาะการเข้าถึงข้อมูลการเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ประกันภัยต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนมีทางเลือกและเข้าถึงผลิตภัณฑ์ประกันภัยให้มีความเหมาะสมกับตนเองและครอบครัวอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ดังนั้นสำนักงาน คปภ. จึงได้พัฒนาและต่อยอดเว็บไซต์เพื่อเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ประกันภัยภายใต้ชื่อ “กูรูประกันภัย” (https://guruprakanphai.oic.or.th) เพื่อรองรับสังคมไทยที่ก้าวเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ทำให้เกิดโอกาสทางธุรกิจที่จะเข้าถึงผู้เอาประกันภัยผ่านการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์มากขึ้น โดยสำนักงาน คปภ. กำหนดให้บริษัทประกันภัย นายหน้าประกันภัยและธนาคารที่ทำการเสนอขายประกันภัยผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ (Online) ต้องขึ้นทะเบียนกิจกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าระบบสารสนเทศมีความมั่นคงปลอดภัย และต่อมาได้พัฒนาระบบเว็บไซต์เพื่อตรวจสอบการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการที่ขายกรมธรรม์ทางอิเล็กทรอนิกส์ ระบบค้นหาและเปรียบเทียบแบบประกันภัย และระบบการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับประกันภัยและการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความมั่นคงปลอดภัย ซึ่งทำให้เกิดประโยชน์และเกิดความเชื่อมั่นต่อประชาชนในการทำธุรกรรมประกันภัยผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยเว็บไซต์กูรูประกันภัย นอกจากประชาชนสามารถเข้าไปใช้บริการผ่านทาง https://guruprakanphai.oic.or.th แล้ว ยังสามารถเข้าไปใช้บริการผ่านทางเว็บไซต์ https://www.oic.or.th/th/consumer โดยกด link เข้าไปใน banner กูรูประกันภัยได้อีกทาง โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งนับตั้งแต่เปิดให้บริการในปี 2563 จนถึงปัจจุบันมีประชาชนเข้าไปใช้บริการเว็บไซต์กูรูประกันภัยแล้ว จำนวนกว่า 179,082 ครั้ง 
 
เลขาธิการ คปภ. กล่าวด้วยว่า เว็บไซต์กูรูประกันภัย ถือเป็นช่องทางสำคัญในการเข้าถึงข้อมูลการเปรียบเทียบ ผลิตภัณฑ์ประกันภัยต่าง ๆ  ประกอบด้วย 3 ระบบ คือ ระบบแรก ตรวจสอบการขึ้นทะเบียนผู้ประกอบการที่ขายกรมธรรม์ทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนที่สนใจซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ สามารถตรวจสอบรายชื่อบริษัทประกันภัย นายหน้าประกันภัย และธนาคาร ที่ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ดำเนินกิจกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ตามประกาศสำนักงาน คปภ. ก่อนตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์
 
ระบบที่ 2 ประชาชนผู้เอาประกันภัยสามารถค้นหาและเปรียบเทียบแบบประกันภัย เพื่อส่งเสริมกลไกทางการตลาด การแข่งขันทางด้านราคา และเป็นการให้ข้อมูลแก่ประชาชนที่สนใจได้รับข้อมูลที่สามารถนำมาใช้ในการประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ เช่น เบี้ยประกันภัย เงื่อนไขการประกันภัย และข้อยกเว้น โดยปัจจุบันระบบเปรียบเทียบของเว็บไซต์นี้ สามารถเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ประกันภัย ประกอบด้วย ประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล ประกันภัยการเดินทาง และประกันชีวิต โดยผู้สนใจสามารถกำหนดปัจจัยในการพิจารณาผลิตภัณฑ์ประกันภัยได้ เพื่อให้ตรงความต้องการของตนเอง 
 
สำหรับระบบค้นหาผลิตภัณฑ์ประกันภัย ผู้สนใจสามารถค้นหาแบบประกันภัยได้ ทั้งประเภทผลิตภัณฑ์ประกันภัย ชื่อแบบประกันภัย ชื่อบริษัทประกันภัย
 
ระบบที่ 3 ระบบการให้ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการประกันภัยและการทำธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลและส่งเสริมให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันภัยต่าง ๆ และการซื้อผลิตภัณฑ์ประกันภัยทางอิเล็กทรอนิกส์
 
นอกจากการจัดทำเว็บไซต์กูรูประกันภัยแล้ว สำนักงาน คปภ. ยังได้จัดทำ OIC Gateway ซึ่งเป็นระบบให้ผู้เอาประกันภัยสามารถมาตรวจสอบข้อมูลกรมธรรม์ประกันภัยที่ผู้เอาประกันภัยซื้อ เช่น เลขที่กรมธรรม์ประกันภัย บริษัทที่รับประกันภัย ระยะเวลาคุ้มครอง และข้อมูลความคุ้มครองเบื้องต้น และปัจจุบันระบบดังกล่าวยังได้มีการพัฒนา เพื่อเพิ่มความสามารถสามารถในการแสดงข้อมูลให้ผู้เอาประกันภัยทราบมากขึ้น เช่น สรุปจำนวนเงินเอาประกันภัยทั้งหมด สิทธิประโยชน์ทางภาษี เป็นต้น 
 
“สำนักงาน คปภ. มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงระบบประกันภัยได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และเหมาะสมกับความเสี่ยง โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาพัฒนาการให้บริการประชาชนด้านประกันภัยอย่างเต็มรูปแบบเพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ระบบประกันภัยเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นจึงอยากเชิญชวนประชาชนที่มีความสนใจจะเลือกผลิตภัณฑ์ประกันภัยประเภทต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับความสามารถในการชำระเบี้ยและความต้องการที่แท้จริง สามารถเข้าไปที่เว็บไซต์กูรูประกันภัยเพื่อศึกษาข้อมูลก่อนการพิจารณาตัดสินใจเลือกผลิตภัณฑ์ประกันภัย” เลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย
 
………………………………………
หมวดหมู่ข่าว: 

สำนักงาน คปภ. ยกระดับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประชาชนด้านประกันภัยด้วยเทคโนโลยี เลขาธิการ คปภ. กดปุ่มเปิดระบบ E–Arbitration ให้บริการเต็มรูปแบบพร้อมกันทั่วประเทศแล้ว

< >
<
>
วันที่เผยแพร่: 
09 May 2566

สำนักงาน คปภ. ยกระดับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ประชาชนด้านประกันภัยด้วยเทคโนโลยี เลขาธิการ คปภ. กดปุ่มเปิดระบบ E–Arbitration ให้บริการเต็มรูปแบบพร้อมกันทั่วประเทศแล้ว

 

ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานแถลงข่าวเปิดตัวเว็บไซต์ใหม่ของสำนักงาน คปภ.และเปิดตัวโปรแกรมระบบการระงับข้อพิพาทด้วยวิธีอนุญาโตตุลาการออนไลน์ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2566 ณ อาคารสถาบันวิทยาการประกันภัยระดับสูง สำนักงาน คปภ. ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร โดยเปิดเผยว่า สำนักงาน คปภ. ได้มีการปรับตัวให้เข้าสู่ยุค Next Normal ด้วยการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการดำเนินการต่าง ๆ ทั้งด้านการกำกับและส่งเสริมภาคธุรกิจประกันภัย การคุ้มครองสิทธิประโยชน์ด้านการประกันภัยให้มีความสะดวก รวดเร็ว และง่ายต่อการเข้าถึงข้อมูลผ่านทางเว็บไซต์และการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง และถือเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญของสำนักงาน คปภ. ในการยกระดับการให้บริการประชาชนด้วยเทคโนโลยีใน 3 มิติใหม่คือ 

 

มิติแรก ปรับปรุงโฉมของ Website สำนักงาน คปภ. ด้วยการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ให้มีความทันสมัยเพื่อลดขั้นตอนในการเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายมากขึ้น โดยรวบรวมข้อมูลด้านการประกันภัยเสมือนเป็นห้องสมุดด้านการประกันภัยที่รองรับทุกการเข้าถึงในทุกอุปกรณ์ ทั้งจากโทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ต  โดยปรับเพิ่มรูปแบบ Website สำนักงาน คปภ. เช่น นำระบบ Chatbot ซึ่งเดิมอยู่แยกต่างหากมารวมไว้ ทำให้เกิดความสะดวกแก่ประชาชนในการสอบถามข้อมูลด้านการประกันภัยได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพิ่มระบบค้นหาสำนักงาน คปภ. ทุกแห่งทั่วประเทศด้วยระบบ Google Map เพิ่มระบบค้นหา Search ที่สามารถค้นหาข้อมูลได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น แบ่งหมวดหมู่ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้น มีการบริการอิเล็กทรอนิกส์ของสำนักงาน คปภ. ที่สามารถรองรับทั้งภาคประชาชน และภาคธุรกิจ นอกจากนี้ยังสามารถเข้าชม OIC Virtual Museum พิพิธภัณฑ์เสมือนรูปแบบ 360 องศา ที่รวบรวมประวัติการประกันภัยไว้ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมทั้งมีการรวบรวมข่าวสาร ปฏิทินกิจกรรมของสำนักงาน คปภ. ทั้งส่วนกลางและภูมิภาคไว้อย่างเป็นระบบครบวงจรด้วย “รอบรู้ประกันภัย ครบใน Web เดียว กับ www.oic.or.th”

 

มิติที่ 2 เพิ่มประสิทธิภาพการระงับข้อพิพาทด้วยวิธีอนุญาโตตุลาการ สำนักงาน คปภ. โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในกระบวนงาน หรือ ระบบ E–Arbitration ที่มีการเปิดตัวในวันนี้ ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบสารสนเทศต่อยอดมาจากระบบ PPMS (Policyholder Protection Management System) ที่มีอยู่ โดยระบบดังกล่าวสามารถรองรับกระบวนการพิจารณาผ่านระบบออนไลน์ในทุกขั้นตอนอย่างครบวงจร ตั้งแต่การยื่นคำเสนอข้อพิพาท การยื่นคำคัดค้าน การวางและคืนเงินเป็นหลักประกัน การตั้งอนุญาโตตุลาการ การกำหนดวันนัดพิจารณา การส่งและสั่งคำร้อง การสืบพยาน การจัดทำคำชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการ รวมทั้งสามารถจัดเก็บข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ เพื่อสนับสนุนข้อมูลสำหรับวิเคราะห์และจัดทำรายงานข้อมูลสถิติที่เกี่ยวข้องกับงานอนุญาโตตุลาการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

 

ทั้งนี้ในการพัฒนาระบบ E – Arbitration เพื่อนำมาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการระงับข้อพิพาทด้วยวิธีอนุญาโตตุลาการนั้น สำนักงาน คปภ. ได้วิเคราะห์สภาพปัญหาของกระบวนการที่ใช้ในปัจจุบัน จนได้ข้อสรุปว่าจำเป็นต้องนำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการและการดำเนินงาน จากนั้นจึงได้มีการพัฒนาระบบแล้วได้เชิญผู้มีส่วนที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ประกอบด้วย ผู้แทนผู้เสนอข้อพิพาท ผู้แทนผู้คัดค้าน (บริษัทประกันภัย) และอนุญาโตตุลาการสำนักงาน คปภ. ตลอดจนเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เข้าร่วมทดสอบระบบและรับฟังข้อเสนอแนะในระหว่างวันที่ 20-22 พฤศจิกายน 2565 พร้อมทั้งได้นำข้อเสนอแนะต่าง ๆ มาปรับปรุงและพัฒนาระบบเพิ่มเติม นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2566 สำนักงาน คปภ. ได้เตรียมความพร้อมและซักซ้อมความเข้าใจกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องก่อนเปิดใช้งานระบบ E–Arbitration อย่างเป็นทางการ โดยระบบ E–Arbitration จะเป็นเครื่องมือที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายในกระบวนการระงับข้อพิพาทด้วยวิธีอนุญาโตตุลาการ ซึ่งในแง่ประชาชนผู้เอาประกันภัย จะทำให้กระบวนการระงับข้อพิพาทด้วยวิธีอนุญาโตตุลาการเป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว ลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินกระบวนพิจารณา ซึ่งมีผลทำให้ได้รับค่าสินไหมทดแทนหรือยุติข้อพิพาทได้รวดเร็วยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ประชาชนผู้ใช้บริการสามารถเข้าถึงและติดตามความคืบหน้าได้ตลอดทุกที่และตลอดกระบวนการ ส่วนทางด้านบริษัทผู้รับประกันภัยก็จะช่วยลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายในการดำเนินการกระบวนการพิจารณา โดยไม่ต้องเดินทางมา ณ ที่ทำการของอนุญาโตตุลาการในแต่ละพื้นที่ รวมทั้งลดภาระการดำเนินการทางเอกสาร และสามารถบริหารจัดการค่าสินไหมทดแทนได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ในส่วนของอนุญาโตตุลาการและพนักงานเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ก็จะช่วยให้มีเครื่องมืออำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติหน้าที่ในกระบวนการระงับข้อพิพาทด้วยวิธีอนุญาโตตุลาการมากขึ้น

 

สำหรับการใช้งานระบบ E – Arbitration ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการระงับข้อพิพาทด้วยวิธีอนุญาโตตุลาการ สามารถเข้าใช้งานได้ผ่านเว็บไซต์ของสำนักงาน คปภ. (WWW.OIC.OR.TH) โดยทำการเลือกที่ MENU “อนุญาโตตุลาการออนไลน์” ทั้งนี้ การเปิดใช้งานระบบเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับประชาชนที่มีความพร้อมในการดำเนินกระบวนพิจารณาโดยผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งในช่วงระยะเวลาเริ่มต้นของการใช้ระบบนี้ สำนักงาน คปภ. ยังคงเปิดรับการให้บริการคู่พิพาทตามรูปแบบเดิมคู่ขนานกันไปด้วย ในส่วนของวิธีการใช้งานและช่องทางในการใช้งานผ่านระบบ E-Arbitration ดังกล่าว ประชาชน บริษัทประกันภัย และอนุญาโตตุลาการ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมและเข้าใช้งานโดยสำนักงาน คปภ. ได้มีการเผยแพร่คู่มือการใช้งานและคลิปวิดีโอแนะนำการใช้งานต่าง ๆ ตลอดจนเอกสารเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ได้ที่ Website สำนักงาน คปภ. Facebook สำนักงาน คปภ. OIC Mobile Application : คปภ. รอบรู้ และสายด่วน คปภ. 1186

 

มิติที่ 3 สำนักงาน คปภ. อยากให้ช่องทางการสื่อสารของสำนักงาน คปภ. สามารถครอบคลุมประชาชนได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย จึงได้เพิ่มช่องทางการสื่อสารด้านการประกันภัย อีก 3 ช่องทาง คือ Instagram Twitter และ TikTok  และปรับชื่อ Facebook YouTube ใหม่ เพื่อป้องกันความสับสนและเพื่อจะได้ง่ายต่อการจดจำโดย Facebook : เปลี่ยนจาก proic2012 เป็น oicthailand ในส่วนของ YouTube : เปลี่ยนจาก oicstation เป็น oic.thailand สำหรับInstagram หรือ IG : ใช้ชื่อในการค้นหา คือ oic.thailand  ในขณะที่ Twitter : ใช้ชื่อในการค้นหา คือ oic_thailand และ TikTok : ใช้ชื่อในการค้นหา คือ oicthailand

 

 

สำนักงาน คปภ. มีความมุ่งมั่นที่จะทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงระบบประกันภัยได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และทั่วถึง โดยนำเทคโนโลยีสารสนเทศมาพัฒนาการให้บริการประชาชนด้านประกันภัยอย่างเต็มรูปแบบเพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ระบบประกันภัยเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสำนักงาน คปภ. จะติดตามการใช้งานระบบ E–Arbitration อย่างต่อเนื่อง พร้อมรับฟังความคิดเห็นและข้อแนะนำจากผู้ใช้งานเพื่อนำมาปรับปรุงระบบงานให้เกิดประโยชน์สูงสุดและสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริงเลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย

หมวดหมู่ข่าว: 

คปภ. สั่งทีมคนกลางประกันภัยตรวจสอบ “แอม ไซยาไนด์” กรณีเป็นตัวแทนประกันภัย

< >
วันที่เผยแพร่: 
03 May 2566

คปภ. สั่งทีมคนกลางประกันภัยตรวจสอบ “แอม ไซยาไนด์” กรณีเป็นตัวแทนประกันภัย

พบข้อมูลมีใบอนุญาตฯ แต่หมดอายุไปแล้ว ในขณะที่ประกันที่ “แอม” ขายยังไม่มีการเคลมประกันแต่อย่างใด พร้อมย้ำการเรียกร้องค่าสินไหมโดยไม่สุจริตอาจเข้าข่ายเป็นการฉ้อฉลประกันภัยมีโทษจำคุกและอาจชวดเงินประกันภัย
 
จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจขออำนาจศาลอาญาอนุมัติการจับกุม “นางสรารัตน์ รังสิวุฒาภรณ์” หรือ “แอม” ในความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 (4) และจากการสืบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่ามีผู้เสียชีวิตในลักษณะเดียวกันจำนวนหลายราย ซึ่งมีนางแอม เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยทั้งสิ้น ในขณะเดียวกัน ก็ปรากฏข่าวว่านางแอมได้รับใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันชีวิตด้วย และมีคำถามตามมาว่าการฆาตกรรมดังกล่าวเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าสินไหมประกันภัยด้วยหรือไม่ นั้น
 
เพื่อให้ได้ความกระจ่างในเรื่องนี้ ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) ได้สั่งการให้สายตรวจสอบคนกลางประกันภัย สำนักงาน คปภ. ทำการตรวจสอบข้อมูลเกี่ยวกับใบอนุญาตของนางแอม พบว่า นางแอมเคยได้รับใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันชีวิตจำนวน 4 ใบอนุญาต สังกัด 3 บริษัท ดังนี้ ใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันชีวิตของ บริษัท เอไอเอ จำกัด วันออกใบอนุญาต 3 กุมภาพันธ์ 2555 วันใบอนุญาตหมดอายุ 2 กุมภาพันธ์ 2556 ใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันชีวิตของ บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) วันออกใบอนุญาต 13 มีนาคม 2558 วันใบอนุญาตหมดอายุ 12 มีนาคม 2559 ใบอนุญาตเป็นตัวแทนประกันชีวิตของ บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) วันออกใบอนุญาต 19 กันยายน 2562 วันใบอนุญาตหมดอายุ 18 กันยายน 2563 และวันออกใบอนุญาต 15 กุมภาพันธ์ 2564 วันใบอนุญาตหมดอายุ 14 กุมภาพันธ์ 2565 โดยปัจจุบันใบอนุญาตทั้งหมดได้หมดอายุแล้ว
 
นอกจากนี้ยังตรวจสอบพบข้อมูลเพิ่มเติมในเบื้องต้นว่า นางแอมได้ขายกรมธรรม์ประกันชีวิต จำนวน 11 กรมธรรม์ ประกอบด้วย บริษัท เอไอเอ จำกัด จำนวน 8 กรมธรรม์ โดยเสนอขายเมื่อปี 2555 ซึ่งกรมธรรม์ประกันชีวิตดังกล่าว ณ ปัจจุบันได้สิ้นผลบังคับไปแล้ว โดยในระหว่างความคุ้มครองตามสัญญาประกันภัยไม่มีการเคลมกรณีเสียชีวิต บริษัท กรุงไทย-แอกซ่า ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน 1 กรมธรรม์ เป็นกรมธรรม์ประกันชีวิตของบุตรของนางแอมและไม่มีการเคลมกรณีเสียชีวิต และบริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) จำนวน 2 กรมธรรม์ ซึ่งไม่มีการเคลมกรณีเสียชีวิต 
 
เลขาธิการ คปภ. ฝากย้ำเตือนประชาชนว่ากรณีผู้ใดก็ตามกระทำให้บุคคลเสียชีวิตเพื่อหวังเงินประกันภัย นอกจากจะถูกดำเนินคดีและมีความผิดทางอาญาฐานฆ่าผู้อื่นแล้ว หากมีการพิสูจน์ทราบว่าผู้รับประโยชน์ตามสัญญาประกันภัยมีส่วนกระทำความผิดร่วมด้วย บริษัทประกันภัยอาจจะอ้างเหตุไม่จ่ายเงินตามสัญญาประกันภัยได้ และถ้าเข้าข่ายเป็นการฉ้อฉลประกันภัยจะมีความผิดทางอาญาด้วย ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกินสามแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ สำนักงาน คปภ. จะติดตามและตรวจสอบสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและจะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จึงขอให้ประชาชนมั่นใจต่อระบบประกันภัย สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยงได้ในทุกสถานการณ์ หากไม่ได้รับความเป็นธรรมเรื่องประกันภัย หรือต้องการข้อมูลด้านประกันภัยเพิ่มเติม สอบถามได้ที่สายด่วน คปภ. 1186 หรือ Add Line Official @oicconnect 
..............................................
หมวดหมู่ข่าว: 

คปภ. ปักหมุดโครงการ คปภ. เพื่อคนพิการ ปีที่ 2 เปิดตัวสารคดีสั้น The Postcard of Inspiration ส่งความห่วงใยไปกับ คปภ. เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และบูรณาการกับทุกภาคส่วนเพื่อให้คนพิการสามารถเข้าถึงระบบประกันภัยได้อย่างเท่าเทียม

< >
<
>
วันที่เผยแพร่: 
27 April 2566

คปภ. ปักหมุดโครงการ คปภ. เพื่อคนพิการ ปีที่ 2 เปิดตัวสารคดีสั้น The Postcard of Inspiration ส่งความห่วงใยไปกับ คปภ. เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และบูรณาการกับทุกภาคส่วนเพื่อให้คนพิการสามารถเข้าถึงระบบประกันภัยได้อย่างเท่าเทียม

 

เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2566 ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (เลขาธิการ คปภ.) เป็นประธานเปิดตัวสารคดีสั้น The Postcard of Inspiration ส่งความห่วงใยไปกับ คปภ. 

ในโครงการ คปภ. เพื่อคนพิการ ปีที่ 2 โดยมี นางสาวสราญภัทร  อนุมัติราชกิจ อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ประธานสภาธุรกิจประกันภัยไทย นายกสมาคมประกันชีวิตไทย นายกสมาคมตัวแทนประกันชีวิตและที่ปรึกษาการเงิน นายกสมาคมนายหน้าประกันภัยไทย อุปนายกสมาคมประกันวินาศภัยไทย อุปนายกสมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย ผู้แทนสมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย เลขาธิการและประชาสัมพันธ์สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ พร้อมด้วยผู้บริหารสำนักงาน คปภ. ประธานกรรมการบริษัท ศรีกรุงโบรคเกอร์ จำกัด และสื่อมวลชน เข้าร่วมอย่างคึกคัก ณ ห้องซารอน A ชั้น 2 โรงแรมสวิสโซเทล รัชดาภิเษก กรุงเทพฯ

เลขาธิการ คปภ. กล่าวใจความสำคัญตอนหนึ่งว่า จากข้อมูลคนพิการในประเทศไทย ของกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พบว่าปัจจุบันประเทศไทยมี "คนพิการ" ที่ได้รับการออกบัตรประจำตัวคนพิการ จำนวน 2,108,536 คน และยังพบว่ามีคนพิการอีกประมาณกว่า 1,000,000 คน ไม่สามารถเข้าถึงสิทธิพื้นฐานของคนพิการได้ในปัจจุบัน ซึ่งกลุ่มคนพิการในประเทศนั้นมีศักยภาพและความสามารถสูง แต่ถูกจำกัดการเข้าถึงอาชีพ ยังไม่ได้รับโอกาสให้แสดงความสามารถ และอาจมีข้อจำกัดในการทำประกันชีวิตและประกันสุขภาพ ดังนั้นสำนักงาน คปภ. จึงได้เล็งเห็นความสำคัญในการนำระบบประกันภัยเข้ามาบริหารความเสี่ยงให้กับกลุ่มคนพิการอย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นไปตามแผนพัฒนาการประกันภัยฉบับที่ 4 เพื่อส่งเสริมความรู้สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการประกันภัยและสิทธิประโยชน์ตามกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่กลุ่มคนพิการ ตลอดจนสร้างความตระหนักรู้ถึงคุณค่าและประโยชน์ของการประกันภัย และสามารถเข้าถึงระบบการประกันภัยได้อย่างทั่วถึง อีกทั้งเพื่อสนับสนุนโอกาสและความเท่าเทียมในสังคม และเสริมสร้างแรงบันดาลใจต่อการดำรงชีวิตให้กับกลุ่มคนพิการทั่วประเทศ ภายใต้การดำเนินโครงการ คปภ. เพื่อคนพิการ ซึ่งจัดทำเป็นปีที่ 2 โดยมีกิจกรรมหลัก ๆ 3 ส่วน คือ ส่วนแรก เป็นกิจกรรมเสวนา ซึ่งมี อธิบดีกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ นายกสมาคมประกันชีวิตไทย ประธานกรรมการบริษัท ศรีกรุงโบรคเกอร์ จำกัด และเลขาธิการ คปภ. เป็นผู้ร่วมเสวนา เพื่อร่วมกันระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับแนวทางส่งเสริมคุณภาพชีวิตคนพิการด้วยการนำระบบประกันภัยมาใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารความเสี่ยง โดยมีวัตถุประสงค์หลัก 4 มิติ คือ 

 

มิติแรก ส่งเสริมองค์ความรู้พื้นฐาน และความสำคัญของการทำประกันภัยให้แก่กลุ่มคนพิการได้ทราบถึงประโยชน์ของการประกันภัยที่เป็นเครื่องมือบริหารความเสี่ยงให้กับชีวิตและทรัพย์สิน 

 

มิติที่ 2 การพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยใหม่ ๆ ให้สามารถตอบสนองการดำเนินชีวิตของประชาชนทุกระดับ ซึ่งสำนักงาน คปภ. ได้ร่วมกับภาคธุรกิจประกันภัย จัดทำกรมธรรม์ประกันภัยเพื่อคนพิการ ภายใต้ชื่อ “กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุเพื่อคนพิการสำหรับรายย่อย (ไมโครอินชัวรันส์)” และ “กรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุเพื่อมวลชน”

 

 มิติที่ 3 เสริมสร้างศักยภาพของคนพิการ และสร้างโอกาสในเส้นทางสายอาชีพอุตสาหกรรมประกันภัยให้แก่คนพิการได้สามารถเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมประกันภัย และมิติที่ 4 เสริมสร้างแรงบันดาลใจต่อการดำรงชีวิตให้กับกลุ่มคนพิการทั่วประเทศ เพื่อให้เห็นศักยภาพและความสามารถในตนเอง และสามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างมีความสุข  

ส่วนที่ 2 กิจกรรมออกบูธนิทรรศการ โดยได้รับความร่วมมือจากภาคธุรกิจประกันภัย กองทุนประกันชีวิต กองทุนประกันวินาศภัย กองทุนทดแทนผู้ประสบภัยเพื่อให้คำปรึกษาด้านการประกันภัย และองค์กรเพื่อคนพิการเข้าร่วมออกบูธจำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์จากคนพิการ

ส่วนที่ 3 กิจกรรมมอบกรมธรรม์ประกันภัยอุบัติเหตุเพื่อคนพิการสำหรับรายย่อย (ไมโครอินชัวร์รันส์) ให้กับ 3 สมาคม ได้แก่ สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย สมาคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทย รวมถึงนักดนตรีคนพิการ รวมมูลค่าความคุ้มครองสูงสุด 1.7 ล้านบาท

 

เลขาธิการ คปภ. กล่าวด้วยว่า ความพิเศษของโครงการ คปภ. เพื่อคนพิการ ปีที่ 2 คือ สำนักงาน คปภ. ได้จัดทำสารคดีสั้นเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนพิการทั่วประเทศ โดยนำบุคคลต้นแบบคนพิการ 4 ท่าน มาส่งต่อแรงบันดาลใจ ภายใต้แนวคิด “The Postcard of Inspiration ส่งความห่วงใยไปกับ คปภ.” โดยบอกเล่าเรื่องราว ปัญหา อุปสรรค และแรงบันดาลใจของคนพิการต้นแบบที่ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านโปสการ์ด ด้วยหวังว่าเรื่องราวที่นำเสนอนั้น จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ท้อแท้หรือกำลังเผชิญปัญหาต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นคนพิการหรือคนปกติทั่วไป ซึ่งบุคคลต้นแบบ 4 ท่าน ที่มาส่งต่อแรงบันดาลใจ ได้แก่คุณณิชชารีย์ เป็นเอกชนะศักดิ์ หรือ “น้องธันย์” จากที่เป็นข่าวใหญ่เมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมาผู้สูญเสียขาจากอุบัติเหตุโดนรถไฟทับขาที่สิงคโปร์ แต่เธอกลับมีกำลังใจที่เข้มแข็งและใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุขลุกขึ้นมาส่งต่อกำลังใจให้แก่ผู้สิ้นหวังจนเป็นที่ยอมรับและถูกชื่นชมในฐานะนักสร้างแรงบันดาลใจ คุณดำเกิง มุ่งธัญญา หรือ ครูไอซ์ ครูตาบอดที่ไม่ยอมจำนนต่อโชคชะตา ถึงแม้กว่าจะมาได้เป็นครูต้องผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่ครูไอซ์ก็สามารถพิสูจน์ด้วยการกระทำและจิตวิญญาณในความเป็นครู ที่มีอยู่ในตัวอย่างเต็มเปี่ยมจนเป็นที่ยอมรับในปัจจุบัน คุณสายสุนีย์ จ๊ะนะ หรือที่รู้จักกันในนาม “คุณแวว ยอดนักวีลแชร์ฟันดาบสาวไทยเจ้าของ 6 เหรียญพาราลิมปิกเกมส์” ที่มีความมุ่งมั่นไม่ย่อท้อ และไม่ยอมแพ้ต่อร่างกายที่เป็นอุปสรรค แต่มีจิตใจที่เป็นนักสู้โดยแท้ จนประสบความสำเร็จด้านกีฬาสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยและเป็นตัวอย่างที่น่ายกย่อง และคุณศรีกรุง อรุณสวัสดี ประธานกรรมการบริษัท ศรีกรุง โบรกเกอร์ จำกัด บอกเล่าประสบการณ์และความมุ่งมั่น ซึ่งทำให้ความพิการไม่เป็นอุปสรรคในการทำให้บริษัท ศรีกรุงฯ เติบโตและสามารถทำให้ตนเองก้าวมาสู่นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจนได้เป็น CEO ของบริษัท มีอาชีพที่มั่นคงสามารถเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัวได้เป็นอย่างดี  

 

ทั้งนี้สามารถรับชมได้ทางสถานีโทรทัศน์และสื่อออนไลน์ โดยจะเริ่มออกอากาศตอนแรกทางช่อง WORKPOINT TV ช่อง 23 ในวันศุกร์ที่ 28 เมษายน 2566 เวลา 22.30 น. นอกจากนี้อยากเชิญชวนให้ทุกท่านได้รับชมเทปสัมภาษณ์พิเศษโครงการ คปภ. เพื่อคนพิการ ปีที่ 2 “The Postcard of Inspiration ส่งความห่วงใยไปกับ คปภ.” ผ่านทางรายการ “เจาะใจ” โดยจะออกอากาศในวันเสาร์ที่ 29 เมษายน 2566 ทางช่อง 9 MCOT HD เวลา 21.00 น. 

ผู้พิการทุกคนล้วนมีคุณค่า มีศักยภาพ และจำเป็นต้องมีประกันภัยมาช่วยบริหารความเสี่ยง เช่นเดียวกับผู้ที่ไม่พิการ ผมขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องผู้พิการทุกคน และจะดำเนินการอย่างเต็มที่เพื่อช่วยให้ผู้พิการสามารถเข้าถึงระบบประกันภัยครับเลขาธิการ คปภ. กล่าวในตอนท้าย

หมวดหมู่ข่าว: 

Pages

Subscribe to RSS - ข่าว